ธันวาคม 20, 2564

จิตวิญญานคริสต์มาส : ความรักกับความหวัง

 


อีกไม่กี่วันจะถึงวันคริสต์มาส วันซึ่งกลายเป็นเทศกาลของชาวโลกก้อว่าได้. เพราะสังเกตว่าไม่ว่าประเทศไหนๆ (ส่วนใหญ่) ก้อฉลองวันคริสต์มาสด้วยกันทั้งนั้น แม้ว่าจะไม่ได้มีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติก็ตาม

ถ้าใครเป็นสมาชิกพวกบริการ streaming เช่น Netflix หรือ HBO GO จะได้ดูหนังเกี่ยวกับคริสต์มาสหลายเรื่อง. ซึ่งเค้าปล่อยหนังออกมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนแล้ว

เราชอบดูหนังคริสต์มาสเพราะดูแล้วได้ความรู้สึกเชิงบวกกับชีวิตมากขึ้น. ดูชีวิตมีความหวัง 

หนังเกี่ยวกับคริสต์มาสมักจะมีโทนสีสดใส. สว่าง มีแต่ Bokeh วิบวับๆๆๆๆๆๆๆ. ดูสดชื่น. มีสีสัน. 

ที่ชอบน้อยหน่อยก้อตรงที่หลายเรื่องมักจะเป็น theme เกี่ยวกับความรักหนุ่มสาว เอาเป็นว่าใครที่กำลังอกหัก หรือ ไม่มีแฟน. ดูแล้วคงจะเศร้ามากกว่าสุข

ใครที่อยู่คนเดียวคงจะต้องเหงา เพราะเทศกาลนี้เค้าเน้นเรื่องการกลับมาเจอกันของครอบครัว.  อย่างน้อยเวลานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ต้องมี scence หวานชื่นกับหวานใจ. ซึ่งสิ่งเหล่านี้คงบาดใจสำหรับคนเพิ่งเลิกกับแฟน.  คนตกงาน หรือคนที่ไม่มีครอบครัว

เราชอบออกไปหาพลังบวกตามห้างสรรพสินค้าในช่วงก่อนคริสต์มาสเล็กน้อย. เป็นเพราะตามห้างสรรพสินค้าจะประดับประดาไปด้วยไฟกระพริบหลากสีสัน. มีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ มีของประดับสวยๆ. ดูแล้วสดชื่น

ปีนี้อยากจะสดชื่นให้สมกับเป็นปีที่เกษียณมาอยู่บ้านครบ 3 ปี เลยไปรื้อเอาต้นคริสต์มาสที่เคยซื้อไว้เมื่อประมาณ 6-7 ปีมาแล้วออกมาตั้งไว้ดูเล่นบ้าง

ถ้าใช้คำว่ารื้อออกมาแปลว่าถูกเก็บเอาไว้ซอกมุมไหนซักแห่งของบ้าน  แน่ล่ะ. สภาพตอนรื้อออกมาคือมีใบร่วงออกมานิดหน่อย  คือร่วงน้อยกว่าที่คิดเอาไว้. อาจจะเป็นเพราะว่าตอนเก็บก้อเก็บอย่างดี. คือเก็บใส่ถุงพลาสติกไม่ให้ฝุ่นเกาะ. 

แต่ข่าวร้าย...คือ

ฐานที่มีไว้เสียบต้นมันหายไป

ทำไงล่ะคะ.   ต้นคริสต์มาสจะตั้งได้ไง. ถ้าไม่มีฐาน

ออกไปเดินท่อมๆหาวัสดุที่จะมาใช้แทนได้.  เดินรอบๆบ้านพอจะมีอะไรที่ใช้แทนได้ก้อไปเอามาก่อน. ได้คุณพระบิดามาช่วยยก. เพราะงานนี้งานใหญ่5555. มีแต่ของหนักๆทั้งนั้นเลย. ยกเองไม่ไหวค่ะ

ติดตั้งสำเร็จก้อต้องมีการเอาพวกของประดับมาติด.  สั่งซื้อไฟกระพริบมาจาก web shopping online เป็นรุ่นที่ใช้ solar cell  

ขอเวลาไปถ่ายรูปให้สวยๆก่อนนะคะ. แล้วจะเอามาโชว์ใน post ให้ดู

นั่งชื่นชมต้นคริสต์มาสด้วยความรู้สึกชื่นมื่น.  ก้อคนมันชอบนี่นา

ยิ่งเวลาพลบค่ำ. พอไฟเริ่มติด. ยิ่งสวย

คิดไปถึงปีหน้า...ชีวิตจะดีกว่านี้ไหมหนอ.  ปีนี้เหนื่อยมากค่ะ  เหนื่อยแต่ได้รายได้กลับมาน้อยมาก. น้อยจนคิดว่าควรจะเลิกทำ.  ควรพยายามในสิ่งที่มันคุ้มค่า และคู่ควรจะเหนื่อยหรือเปล่านะ

เศร้าค่ะ

เหมือนกับชีวิตมันแทบจะหมดสิ้นไปกับการออกจากงาน.  อะไรที่เหลือ. ก้อพาลหมดลงไปที่สุดในปีนี้

เหมือนคนเพี้ยนที่นั่งวาดรูปทุกวันแล้วคิดว่าจะสิ่งที่ทำด้วยความรักจะพาชีวิตรอดไปจากวิกฤต.   

....เรามาถึงจุดนี้ได้ไง

นึกๆว่าจะยอมแพ้ดีกว่า.  กลับไปสมัครงาน....กลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือน

จะได้มีเงินแน่นอนเข้าบัญชี.    ได้ไม่เท่าเก่าก้อจะไม่ว่าสักคำ  

สิ่งที่ค้นพบตอนนี้คือ.   ยังไงก้อทุกข์อยู่ดี.  ทำงานเป็นลูกจ้างเค้าก้อต้องทำสารพัดแม้จะได้เงินดี.   คิดว่าออกมาจากตรงนั้นแล้วจะดีกว่า.  ก้อกลับมาทุกข์กับการไม่มีรายได้เลย. 

ต้นทุนค่าใช้จ่ายกว่าจะสร้างงานได้หนึ่งชิ้นมีตั้งแต่ค่าเครื่องคอมพิวเตอร์.  ค่าอินเตอร์เนตรายเดือน ค่าเช่าโปรแกรม. ค่าเช่า cloud storage ไว้เก็บไฟล์งานเพราะพวก hard drive หรือ portable harddisk นี่อาจจะพึ่งพาไม่ได้. นึกจะเสียก้อเสียได้

ค่ากล้อง ค่าเลนส์ ค่าจิปาถะ.  รวมไปจนถึงค่าเรียนต่างๆ ไม่เรียนรู้ trend สินค้าใหม่ๆ. เพิ่มทักษะให้ตัวเอง ก้อสร้างงานสู้ชาวโลกเค้าไม่ได้สิ. 

ไหนจะค่าวันและเวลาเช้าจรดค่ำวันละ 12-15 ชั่วโมงในการฝึกๆๆๆๆๆๆ ให้ชำนาญ

ค่าสายตาที่ต้องใช้จ้องจอตลอดวัน.  ค่าเสื่อมสังขารร่างกายที่นั่งหลังขดหลังแข็ง. จนบางช่วงเจ็บหลังบ้างแล้ว.  ปวดข้อมือ.  ปวดนิ้วเพราะต้อง click ไปๆมา

นั่งเงียบๆดูต้นคริสต์มาสแล้วก้อคิดค่ะ

คิดว่าปีหน้าจะเป็นอย่างไร....

พยายามทำดีที่สุดแล้วมันก้อยังไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยเหรอ.   เปล่าหรอกค่ะ. มันก้อดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ. แต่มันก้อเติบโตแบบทีละเล็ก ละน้อย. 

เราไม่ได้ใจร้อนนะ.  แต่ต้นทุนชีวิตเราลดน้อยลงไปตามกาลเวลา.   

บางคนบอกว่าเหมือนปลูกต้นไม้.  เราต้องอดทน. รดน้ำพรวนดินไปเรื่อยๆ.  วันหนึ่งข้างหน้าเราจะได้กินดอกผลของมัน.   

...จริงป่าวเนี่ย.....เฮ้อ...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น