แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ pet แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ pet แสดงบทความทั้งหมด

กันยายน 10, 2567

Goodbye Summer

 


และแล้วแม่สามสีก็ทิ้งลูกไปจริงๆค่ะ...

ตั้งแต่แม่สามสีทิ้งซัมเมอร์ไป  ศรีส้มก็ช่วยดูแลซัมเมอร์ค่ะ  เห็นเค้าเริ่มคุ้นกัน เวลาศรีส้มอยู่บ้าน ซัมเมอร์เค้าก็จะนิ่งๆไม่ซุกซน  แต่ถ้าเมื่อไหร่ต้องอยู่คนเดียว  เค้าก็ติดคน  ชวนเล่นโน่นนี่  วิ่งตามตลอดเวลา และแถมยังขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง  คุณพ่อคุณแม่ผู้เขียนท่านก็บ่นเลยค่ะ

ขนาดว่าเตรียมกะบะทรายไว้ให้  น้องก็นั่งถ่ายข้างกะบะ  ไม่ยอมลงไปในกะบะซะงั้น😅

ซัมเมอร์ก็คงน่ารักไร้เดียงสา ประสาแมวเด็กนั่นแหละค่ะ  ยังไม่แน่ใจว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย  ยังเตรียมว่าจะพาไปทำวัคซีนในไม่ช้าค่ะ  กะว่าให้ซัมเมอร์อายุซัก 5 เดือนก่อน

แล้วซัมเมอร์มีผลงานจับแมงสาบได้เยอะอยู่นะคะ  5555

...

อยู่มาวันหนึ่งซัมเมอร์บังเอิญเจอคุณแม่สามสีเข้าจังๆ เพราะว่าแม่สามสีเค้าอยู่ประจำคือบ้านข้างๆนี่เอง เค้าก็คงคิดถึงแม่เค้ามากนั่นแหละ  เห็นซัมเมอร์วิ่งเข้าไปหาแม่สามสีทันที ขณะนั้นพอดีผู้เขียนยืนอยู่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่ค่ะ  เลยยืนดูอยู่

แต่ปรากฎว่าคุณแม่สามสีกลับคำรามใส่แบบพร้อมกัด ขู่ฟ่อๆ เลยค่ะ  ซัมเมอร์ก็พยายามจะวิ่งไปหาอีก  แม่ก็ขู่ใส่อีก จนผู้เขียนต้องบอกให้แม่สามสีไปซะก่อน  แม่สามสีเค้าก็เหมือนฟังรู้เรื่องค่ะ เพราะช่วงนางมานอนอยู่ที่บ้านผู้เขียนตอนซัมเมอร์ยังเล็ก เราก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี 

พอแม่สามสีกระโดดหนีไป  ซัมเมอร์เดินคอตกกลับมาหาผู้เขียนเลยค่ะ  เค้าแหงนหน้าขึ้นมาสบตาผู้เขียนด้วย  จำได้เลยว่าเค้าดูเศร้ามาก และไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงไล่เค้า...

ใครว่าสัตว์ไม่มีหัวใจ  คงไม่จริงแน่  ซัมเมอร์เค้าคงจะเสียใจที่ตลอดเวลาเค้าคิดถึงแม่

แล้วก็มีครั้งอื่นอีกค่ะ ที่เหตุการณ์เป็นทำนองนี้   ซัมเมอร์เกือบโดนแม่กัด  เพราะว่าจะวิ่งเข้าไปหาแม่

ทุกครั้งซัมเมอร์เค้าก็มองมาหาผู้เขียนอีก  คงจะถามว่า...ทำไมนะ ทำไมแม่ไม่รักซัมเมอร์

เศร้าเนอะ...😓


ซัมเมอร์ก็โตขึ้นทุกวัน  ผู้เขียนก็ชอบพูดว่าให้ซัมเมอร์อยู่กับศรีส้มแทนแม่เถอะ  พี่ศรีส้มเค้าไม่เคยทิ้งใคร ...

...

ซัมเมอร์ แปลว่า ฤดูร้อน  ตั้งชื่อให้แบบนี้ก็เพราะได้เจอซัมเมอร์ในช่วงเดือนเมษายนของ 2567 อากาศกรุงเทพกำลังร้อนสุดโหดเลยค่ะ  ขนาดศรีส้มยังนั่งหอบลิ้นห้อย หรือ heat stroke ขึ้นมาจนผู้เขียนตกใจ

ตอนนั้นซัมเมอร์ตัวเล็กนิดเดียว ก็กลัวว่าจะไม่รอดซะแล้ว  แต่ก็ภูมิใจมาก ที่ซัมเมอร์อยู่กับผู้เขียนมาได้เกือบ 6 เดือนแล้ว 

ผู้เขียนเตรียมซื้อกรงกระเป๋าหิ้วใบใหม่ กะว่าจะพาซัมเมอร์ไปทำวัคซีน...

ไม่นึกว่าอยู่ๆเค้าจะไม่กลับมากินอาหารอีก  น้องหายไปคงช่วงกลางคืน  ซึ่งเค้าน่าจะเคยออกไปเดินเที่ยว  ทุกทีพอเช้ามาเค้าก็จะมารอกินข้าวเช้าค่ะ   

ทีนี้เช้านี้ทำไมเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับ... 

"ซัมเมอร์ ๆ  ๆ"...เงียบสนิทเลย

ซึ่งปกติถ้าเรียกเค้าจะรีบวิ่งมาแบบสุดชีวิตเลยค่ะ ฮืออออ... เอาแล้วสิ  

อยู่ๆก็หายไป มันก็โหดร้ายหน่อยนึงนะ  พยายามเรียกหาแถวบ้าน  ก็ไม่มีวี่แววเลย...

สองวันผ่านไปแล้ว...ผู้เขียนก็ต้องทำใจค่ะ

แถวบริเวณมีป่าหญ้า  ก็ไม่รู้ว่าจะมีงู หรือมีตัวสัตว์เลื้อยคลานประเภทอื่นอีกหรือไม่  ที่จริงก็น่าจะมี เพราะเคยเห็นออกมาเดินค่ะ   ส่วนงูเหลือมก็เคยเลื้อยเข้ามากินน้องศรีนวลถึงในกรงไปแล้ว ฮือออ


...

แต่ยังไงก็เศร้ามากอยู่ดี...พยายามคิดในแง่ดีว่า เค้าอาจมีคนใจดีเก็บไปเลี้ยง เพราะคิดว่าเป็นแมวหลงมา หรือ ไปอยู่กับแม่สามสี (ซึ่งก็คงยาก  ไปมองหาแล้วก็ไม่เจอค่ะ)

 ผู้เขียนยังมองไปรอบๆที่ๆเค้าอยู่  ชามข้าว  ของเล่น... แล้วก็คิดถึงเค้าจริงๆ


...คิดถึงอะค่ะ   มันก็เป็นเรื่องเจ็บปวดสำหรับคนที่เลี้ยงแมวอย่างเราๆเนอะ

ผู้เขียนยังคิดว่าจะถ่ายรูปตอนซัมเมอร์อายุ 6 เดือนเก็บไว้ดู  ก้อไม่ทันจะได้ถ่ายเอาไว้เลยค่ะ  เหลือแค่คลิบวีดีโอสั้นๆคลิปเดียวเท่านั้น


เศร้ามาก...ต้องทำใจอีกแล้ว...แงงงง

...Goodbye Summer  ถ้ายังไม่กลับดาวแมวก็ขอให้เจอคนโชคดีพาไปอยู่ด้วยนะ ...ลาก่อน


สิงหาคม 13, 2567

Hello Summer

 



ที่จริง summer คือชื่อลูกแมวตัวล่าสุดค่ะ   แม่แมวชื่อคุณสามสีเอามาให้เลี้ยง  นางหอบหิ้วลูกน้อยมาหนึ่งตัวเป็นสลิดส้มทั้งตัว  ซึ่งก็เป็นสลิดส้มเหมือนกับน้องศรีส้มที่เคยเล่าไปก่อนหน้า

ศรีส้มยังอยู่ดีค่ะ  เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว น่าจะอายุเกือบหกปีได้กระมัง (อ่าน story ของศรีส้มย้อนหลังได้ค่ะ)

ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าศรีส้มนี่เผลอๆจะเป็นคุณพ่อของซัมเมอร์หรือเปล่าเนี่ย !  คุณแม่สามสีนี่เป็นแมวข้างบ้าน เป็นแมวที่ไปๆมาๆแต่เห็นอยู่ประจำที่บ้านติดกันค่ะ  แต่ทางข้างบ้านก็บอกไม่ได้เลี้ยง !

ผู้เขียนก็งงๆอยู่กับความสัมพันธ์แบบซับซ้อนอย่างนี้เหมือนกัน  ตกลงว่าให้มานอนเล่นได้ แต่คาดว่าคงไม่ได้ให้อาหารเป็นจริงเป็นจังกระมัง

ต่อไปนี้จะขอเรียกว่าคุณแม่สามสีนะคะ  มีลายส้ม ดำ และ ขาวอยู่บนตัว  ใครๆก็เรียกหล่อนว่าสามสี

อยู่มาวันหนึ่งในเดือนเมษายน 2567 คุณแม่สามสีหอบลูกมานอนแอบซ่อนที่ระเบียงบ้านผู้เขียน  นางซ่อนลูกที่คาดว่าเหลือตัวสุดท้ายเอาไว้ใต้ตู้เสื้อผ้าเก่าๆ ที่บ้านของผู้เขียน ใครมาเข้าใกล้ก็จะขู่ฟ่อเลยทีเดียว

นางหวงลูกมาก  และประคบประหงมลูกเป็นอย่างดี  ไม่ยอมห่างไปไหนเป็นเดือนๆเลยค่ะ  ผู้เขียนหาน้ำไว้ให้ กับให้อาหารทั้งคุณแม่คุณลูก ประดุจเป็นแมวเลี้ยงเอง

ลองคิดดูว่าถ้าแมวมีลูกเล็กๆ จะไปหาอาหารยังไงได้   ไม่กล้าทิ้งลูกไว้ แล้วตัวเองไม่มีอะไรกิน ไม่ว่าจะอาหารหรือน้ำ  แมวจรจัดก็ต้องออกหากินเองใช่ป่าวคะ

นี่สามสีคงมีลูกมากกว่าหนึ่งตัว  แต่คงไม่รอดไปทีละตัวสองตัว  จนเหลือตัวสุดท้าย  เลยต้องหนีตายมาพึ่งบ้านผู้เขียนนี่หละ

เห็นคลิบในสื่อสังคมออนไลน์เยอะแยะ  แม่แมวผอมโซนอนหมดแรง ท่ามกลางลูกแมวล้อมวงดูดนมจากอกแม่ซึ่ง...กำลังจะตาย

น่าสงสารมากจริงๆค่ะ

ตลอดสี่เดือนเห็นสามสีดูแลซัมเมอร์แล้วก็ซึ้งใจค่ะ  นางตามลูกไม่ห่างเลย มีการพาลูกไปสอนการล่าสัตว์อีกด้วยค่ะ   ล่าจิ้งเหลนมากินกันสองแม่ลูกที่ระเบียงบ้านด้วย  ผู้เขียนสยองมาก ! 5555

กระนั้น...พอย่างเข้าเดือนที่สี่ปลายๆ นางเริ่มหายไปสองสามชั่วโมง แล้วค่อยกลับมาดูลูก  ซัมเมอร์ยังเด็กมาก  ก็วิ่งร้องหาแม่เวลาหาแม่ไม่เจอแหละค่ะ  

ท้ายสุดคุณแม่สามสีก็หายตัวไปเลย  ผู้เขียนก็หลงเป็นห่วงว่าสามสีจะยังมีชีวิตอยู่ไหม  แต่ก็เอาซัมเมอร์มาเลี้ยงเป็นเพื่อนกับศรีส้มค่ะ  ให้ศรีส้มเลี้ยงน้องซัมเมอร์  

ผ่านไปอีกเป็นเดือนๆ กลับเห็นคุณแม่สามสีเดินเล่นอยู่บ้านข้างๆ !  อ้าว...ตกลงนางทิ้งลูกหรือนี่ !


...😅😅😅


(โปรดติดตามตอนต่อไป)

กุมภาพันธ์ 14, 2566

โลกของแมว


 

เวลาเครียดๆเมื่อไหร่...ถ้าคุณผู้อ่านมีแมวอยู่ในบ้าน.  ลองไปคุยกับเค้าดูสิคะ


ผู้เขียนเริ่มจะพูดกับแมวบ่อยๆแล้วล่ะค่ะ.  55555

เค้าก้อจะคุยกับเรา เหมือนจะรู้เรื่องไปกับเราเนอะ5555.

เราพูดภาษาคน. เช่น.  "ทำไรอยู่ศรีส้ม.  นอนทั้งวันเลยนะ"

ศรีส้ม : เมี้ยวววว. เมี้ววววๆๆๆ

เรา :  กินข้าวหรือยังเนี่ย

ศรีส้ม :  (ทำท่าตะกายข้างฝา. เอาขาหน้าสองขายืนแล้วเอาเล็บขูดข้างฝา ครืดๆๆ) เมี้ยวว

เรา :  (เอามือไปเกาพุงให้) 

ศรีส้ม :  (นอนหงายท้องให้เกาอย่างสบายใจ)


5555


ศรีส้มน่าจะรักการกินเป็นชีวิตจิตใจค่ะ. กับอีกอย่างหนึ่งที่เห็นศรีส้มชอบทำคือการเลียทำความสะอาดขน 


....เลียตัวเองไม่พอ.  จะตามไปเลียให้น้องศรีนิลอีกด้วย.  เลียแบบจริงจังเลยทีเดียว


ตั้งแต่ศรีนวลจากไปอย่างกระทันหัน  ศรีส้มก็ต้องมารับบทเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลศรีนิลค่ะ

ทั้งที่ก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าศรีส้มไม่แยแสเจ้าแมวรุ่นเด็กเล็กอย่างศรีนวลกับศรีนิลเลยค่ะ.  ถึงจะอยู่ชายคาเดียวกันศรีส้มจะเดินหนีตลอด. และแยกตัวนั่งเล่นเงียบๆคนเดียว

ศรีส้มเคยมีพี่น้องชื่อสามศรี(แม่ของศรีนวล+ศรีนิล). อยู่ๆวันหนึ่งสามศรีก็หายไปไม่กลับมาบ้าน...

สามศรีโตมาด้วยกันกับศรีส้ม.  เป็นคู่วิ่งไล่และวิ่งเล่นมาตลอด. นับจากนั้นศรีส้มก็ซึมๆไปพักใหญ่. เหมือนจะรับรู้ว่าสามศรีคงไม่กลับมาแล้ว. แต่ไม่รู้หายไปไหน. เศร้าค่ะ.  ผู้เขียนเดาว่าสามศรีอาจจะถูกตัวอะไรกินเหมือนกับศรีนวลก็เป็นได้

ศรีส้มไม่กล้าออกไปเล่นไกลบ้าน.  แถวบ้านมีแมวเกเรสีดำชอบมาไล่กัดศรีส้มค่ะ.  ต้องคอยวิ่งหนีเป็นประจำ. ท้ายสุดคงรู้ว่าที่บ้านปลอดภัยที่สุดแล้ว.  

ผู้เขียนชอบดูศรีส้มกับศรีนิลนั่งเล่นด้วยกัน.  เค้าเป็นแมวเค้าก็ดูแลซึ่งกันและกัน ไม่เคยแย่งอาหารกัน. นอนก็นอนด้วยกัน.  ดูแล้วอบอุ่นหัวใจค่ะ

เวลาศรีนิลออกไปเดินเที่ยวนอกบ้าน.   ศรีส้มจะนั่งรอหน้าประตูบ้านเลยทีเดียว. 

ผู้เขียนเองต้องคอยทำใจค่ะ. ไม่รู้ว่าวันไหนศรีนิลอาจจะหายไปไม่กลับมาหรือเปล่า

แต่นี้คือธรรมชาติของสัตว์โลก.  ให้เค้าได้วิ่งเล่น. ได้ผจญภัยบ้างนิดๆหน่อยๆ. สัมผัสแดดอุ่น กลิ่นของใบไม้...ฯลฯ

วันนี้ที่ยังได้อยู่ด้วยกันคือวันที่ดีที่สุดแล้วค่ะ...




ธันวาคม 01, 2565

ผู้รอดชีวิต

 


ใครจะไปรู้ว่า "ผู้รอดชีวิต"ในคราวนี้ จะรอดต่อไปได้ในภายภาคหน้า...อีกหรือไม่

ศรีนิลเป็นแมวตัวผู้ที่มีแววซุกซนมาตั้งแต่ตอนเป็นลูกแมวแล้วค่ะ.  ดูจากหน้าตาก้อคงจะรู้.😅   ผู้เขียนก้อสังเกตเห็นถึงความกระตือรือร้นและพละกำลังที่มีอยู่ในตัวศรีนิลอะค่ะ 

ยามกินก้อจะชอบเบียดและผลัก หรือเอาตัวมาขวางกันท่าศรีนวลให้เข้าถึงชามอาหารได้ลำบาก

ถ้าคุณผู้อ่านนึกไปถึงเวลาคนเราเล่นบาสเกตบอลแล้วฝ่ายตรงข้ามพยายามเอาตัวมากันอีกฝ่ายละก้อ. ยังไงอย่างนั้นแหละค่ะ

และผู้เขียนเห็นเช่นนี้ทุกมื้อ.  

แรกๆศรีนวลผู้อ่อนโยนเสมอจะนิ่ง  แม้จะเป็นตัวผู้เหมือนกันก้อเบียดกลับไม่ค่อยจะไหว. เพราะศรีนิลดูแรงเยอะกว่าค่ะ

พอผ่านมาสักระยะ. เมื่อศรีนวลเริ่มจะรู้ว่าสงสัยต้องออกแรงกันซะบ้าง.  ผู้เขียนเลยได้เห็นศึกแมวชนแมวกันหน้าชามอาหารล่ะค่ะ.  ศรีนิลเบียดมา. ศรีนวลก็ไม่ยอมแพ้ เรื่องกินนี่ไม่มียอม

แต่ก็คงเป็นการเบียดแบบยังมีความปราณีซึ่งกัน.  พอต่างคนได้มุมเหมาะๆแล้ว. ทีนี้เห็นว่าต่างคนต่างกินอย่างไม่สนใจอะไรในโลกนี้แล้ว

พอถึงเวลาเล่น. จะเห็นว่าลูกแมวสองพี่น้องก้อเล่นกันแบบสุดฤทธิ์. คือไล่ปล้ำกันจนเสียงตึงตังไปหมด  ผลัดกันวิ่งไล่.  พอยามพักเหนื่อย ศรีนวลและศรีนิลจะผลัดกันมาเลียหน้าเลียตา.  ดูแลซึ่งกันและกัน. 

ผู้เขียนดูแล้วก็รู้สึกซึ้งไปกับความรักที่สองพี่น้องนี้มีให้กันค่ะ เค้าทั้งคู่ไม่เคยแยกจากกันเลย


ณ วันนี้...

หลังจากการจากไปของศรีนวลอย่างถาวร...ศรีนิลนั่งหงอยๆ และครางเบาๆ พร้อมกับมาคลอเคลียใกล้ๆราวกับจะบอกว่าเค้ากลัว  เค้าเศร้า และเค้ารู้สึกเดียวดายมากๆ

ผู้เขียนเอาคลิบวีดีโอเก่าที่มีภาพเคลื่อนไหวของศรีนวลอยู่ให้ศรีนิลดู

ศรีนิลจ้องมองจอโทรศัพท์มือถือ....และร้องครางเบาๆด้วยค่ะ. 😭

ผู้เขียนเองก็รู้สึกสะท้อนใจไปด้วย

....

ยิ่งตอนผู้เขียนมาเก็บกรงเพื่อจะเก็บพับเป็นการถาวร.  เพราะไม่อยากจะมีภาพจำเกี่ยวกับร่างไร้ชีวิตของศรีนวล.   ขณะกำลังทะยอยพับทีละส่วน. ศรีนิลก้อจะเดินมาดมๆรอบๆกรง.  ดมเสร็จก้อนั่งลงไปทำเสียงหงิงๆอีกล่ะค่ะ.  เค้าคงจะยังได้กลิ่นของศรีนวลติดอยู่ตามกรงแน่ๆ

เศร้าค่ะ

มาติดตามกันต่อไปนะคะว่าศรีนิลจะ move on ต่อไปยังไง💔




🌺 ตามอ่านซีรีย์เกี่ยวกับหมาแมวและ "ครอบครัวสามศรี " ตาม Link ด้านล่างนี้ค่ะ :

พฤศจิกายน 24, 2565

วันคืนร้ายๆ

เมื่อคืนฝนตกหนัก เป็นฝนกลางฤดูหนาวที่ทิ้งช่วงมานาน ทำเอาอากาศเย็นนอนสบายไปทั้งคืน.  แต่ว่าเรื่องร้ายๆก้อบังเกิดในรุ่งเช้า

หกโมงเช้ากว่าๆแล้ว. คุณพ่อมาเคาะประตูเรียกแต่เช้า. ผู้เขียนใจคอไม่ดีเลย ตอนออกไปเปิดประตู

พ่อบอกว่าน้องศรีนวลไปแล้ว.....งูเหลือมเข้ามากินน้องถึงในกรง

แม้ว่าจะคายน้องออกมาก่อน เพราะว่ากลัวจะหนีคุณพ่อไม่ทัน.  คุณพ่อหันหลังจะไปหยิบไม้จับงูในบ้าน. พอออกมาอีกที.  งูเหลือมคายร่างไร้ชีวิตของศรีนวลออกมาแล้ว  แต่งูก้อเลื้อยหายลับไป. 

ผู้เขียนวิ่งตามคุณพ่อขึ้นไปชั้นบน.  เห็นเพียงศรีนวลนอนหลับตานิ่งสนิท.  สภาพลำตัวน่าจะถูกบีบจนลีบ. ขาหน้าลู่ติดไปกับลำตัว.  

ผู้เขียนได้แต่เจ็บจุกอยู่ในใจ. พูดออกมาได้แค่ว่า "ไปสวรรค์นะ.  ไม่น่าอายุสั้นขนาดนี้เลยศรีนวล"

คุณแม่เล่าเหตุการณ์ที่เห็นให้ฟัง. บอกว่าศรีนิลคู่พี่น้องของศรีนวลที่อยู่ในกรงเหมือนกันนั่งกลัวตัวสั่นอยู่สุดมุมของกรง.  คงได้แต่นั่งดูภาพสยองของพี่น้องที่เคยอยู่ด้วยกันค่อยๆถูกกลืนกิน

พอคุณแม่ไปเปิดกรงเพื่อจะไล่งู.  ศรีนิลเหมือนจะนั่งตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก.  สักพักหนึ่งถึงจะกระโจนหนีออกมาทางประตูกรงได้

ศรีนิลวิ่งหนีหายไปทางหลังบ้านด้วยความกลัวสุดชีวิต

คู่พี่น้องนี้เคยใช้ชีวิตแต่ในกรงเป็นส่วนใหญ่.  เพราะความที่ยังเป็นแมวเด็ก ตอนนี้ก็น่าจะอายุแค่ 4-5 เดือนเท่านั้น ที่บ้านเพิ่งจะปล่อยให้ออกวิ่งเล่นนอกกรงในช่วงเวลาเย็นบ้าง.  พอค่ำจึงพากลับเข้าไปอยู่ในกรง. เพราะในกรงจะป้องกันอันตรายจากแมวเกเรแถวบ้านที่ชอบมาเดินวนเวียนไล่กัดแมวเล็กอยู่เป็นประจำ

เรื่องงู....เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของผู้เขียน

และแมวเด็ก ก้ออาจจะไม่เคยรู้จัก+ไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่เราเรียกว่างู 

เพราะเข้าใจว่าแมวอยู่ในกรงเหล็กดูแข็งแรงซะอย่างนั้น 

คุณแม่เล่าว่างูมันหาช่องทางลอดเข้าไปได้.  ส่วนคุณพ่อบอกว่าตัวงูเหลือมใหญ่ขนาดเท่าแขนคุณพ่อ.  ถ้ามันไม่ชิงคายน้องศรีนวลออกมาก่อน.  มันจะลอดกลับออกไปไม่ได้

.....





ผู้เขียนนิ่งมองศรีนวลในสภาพนั้นอยู่พักใหญ่

ในหัวใจแตกสลาย...

ถึงแม้ศรีนวลเป็นแค่แมวน้อยหนึ่งตัว  แต่ศรีนวลมีความน่ารัก.  เรียบร้อย. ไม่ค่อยจะซุกซน มีความแสนรู้ประสาสัตว์ที่รู้ว่าใครคือเจ้าของ.  รู้จักที่จะขอความรักความเมตตา  

ภาพเมื่อวันก่อนที่ศรีนวลมาร้องเรียกผู้เขียนที่หน้าห้องทำงานย้อนเข้ามาในความคิดอีกล่ะค่ะ

ศรีนวลเป็นแมวตัวโปรดของผู้เขียน.  

คงจะเก็บเรื่องราวของศรีนวลเอาไว้ในหัวใจเสมอ   วันนี้รู้สึกเศร้ามากๆ...ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานเลยค่ะ

ทั้งที่เมื่อคืนยังบ่นใน Vlog ของตัวเองอยู่เลย ว่าชีวิตเราต้องทำงานๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆ แต่วันนี้หมดแรงแล้ว

.....

ยังมีรูปถ่ายกับวีดีโอคลิปไม่กี่อันที่บังเอิญบันทึกเอาไว้ตอนพาสองศรีพี่น้อง (ศรีนิลและศรีนวล) ไปหาหมอเพื่อฉีดวัคซีน

เปิดคลิบดู....ยิ่งร้าวรานใจ

ทำไมโชคชะตาถึงได้พัดพาให้สิ่งที่เรารักจากไปหมดล่ะ....

ที่ผ่านมาก้อว่าเป็นวันร้ายๆแล้ว

เหมือนวันนี้จะร้ายยิ่งกว่า...

ฉันคิดถึงเธอ แมวน้อย...เราเคยได้ใช้เวลาดีๆร่วมกัน...คิดถึงเสียงเล็กๆที่เธอร้องเรียก 

คิดถึงเธอมากมาย   ขอให้เธอไปดีนะ...

😭






📌------- อ่านเพิ่มเติม-------- 📌 

สิงหาคม 04, 2565

วันแมวๆ

 


ช่วงนี้วุ่นวายอยู่กับพวกแมวๆที่บ้านค่ะ

จริงๆแล้วที่บ้านไม่ได้ตั้งใจจะมีสัตว์เลี้ยงเลย  นับตั้งแต่น้องหมาตัวก่อนหน้านี้ไปสวรรค์เพราะความชราภาพ. ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากจะเสียใจเวลามันตายจากไป และทางคุณแม่ก้อบอกว่าสัตว์เลี้ยงนี่มันเป็นภาระสำหรับท่าน  (น้องหมาสร้างวีรกรรมโหดๆไว้เยอะค่ะ)

อันนี้ต้องฟังเสียงคุณแม่เป็นหลัก. เพราะท่านเป็นผู้รับผิดชอบหลักเวลามีสัตว์เลี้ยงในบ้าน. ท่านต้องคอยให้ข้าวให้น้ำ. ตอนนี้ก้อรู้สึกว่าท่านอายุมากขึ้นตามลำดับ. ไม่อยากให้ท่านเหนื่อย  และท่านชอบบ่นๆว่าชอบปลูกต้นไม้มากกว่าเลี้ยงสัตว์

แม้ปากท่านจะบอกไม่อยากเลี้ยง. แต่เวลามีหมาแมวมาทำท่าขอข้าวกินทีไร.  เห็นท่านจะอดสงสารไม่ได้. หยิบโยนอาหารให้มันซะเป็นส่วนใหญ่.  เลยทำให้ท้ายสุดก้อต้องมีแมวจร.มาเดินวนเวียนเป็นพักๆอยู่ดี.  ทว่ามาแล้วไป. ไม่ได้ถือว่าเป็นสมาชิกในบ้านแต่อย่างใด เพราะมาแล้วไป

ตั้งแต่เมื่อปลายปี. มีแมวจรเพศเมียคาบลูกแมวน่าจะอายุประมาณ 1 เดือน ลูกแมวสองตัวแน่ะ.  มาเดินวนเวียนที่บ้าน ราวกับว่าจะหาที่ "ปล่อยของ" 555  

นางเดินวนเวียนเหมือนพาลูกมาเล่น.   มาวันเว้นวัน.  บางช่วงมาทุกวัน. ถ้าไปไล่มัน มันก้อจะหายไปครึ่งวัน. แต่รุ่งขึ้นมาใหม่. เป็นเช่นนี้แหละ

จนในที่สุดมันเอาลูกมาปล่อยทิ้งไว้ถาวร.  ตัวนางเดินหายไปไม่กลับมาให้เห็นอีกแหละค่ะ. เฮ้อ

ที่บ้านเลยไม่รู้จะทำไงได้.  เห็นลูกแมวหน้าตาแบ๊วๆ.  ไม่มีอะไรกิน. เดินไปเดินมาเพราะหาแม่ไม่เจอแล้ว ทำไงดี...เลยต้องให้อะไรมันกิน. คราวนี้เลยเหมือนจับพลัดจับผลูต้องเลี้ยงไปโดยปริยาย

เจ้าเหมียวเติบโตขึ้นตามลำดับค่ะ  ตอนนี้น่าจะอายุได้ 8 เดือน. อุปนิสัยขี้กลัว.  ชอบอยู่ใกล้ๆคน. ไม่เดินเตร็ดเตร่ไปไหนเลย. วันๆนั่งๆนอนๆอยู่แต่ในบ้าน.  เวลาใครมาก้อจะชอบทักทายและเอาใจด้วยการหงายท้องให้ชมซะงั้น

พูดถึงก้อทำให้รู้สึกเครียดน้อยลงไปหน่อยค่ะ. เวลากลุ้มๆกับชีวิต. ก้อไปเล่นเกาพุงน้องแมว. ฮ่าาาา

เกิดมาไม่เคยเลี้ยงแมวเลยยยยย

ตอนนี้ต้องหาข้อมูลยกใหญ่ค่ะ.  และเริ่มต้องซื้อพวกอาหารเม็ด กับพวกเฟอร์นิเจอร์ accessories ต่างๆนานา. เช่น.  พวกที่นอน. กระบะทราย. ฯลฯ ให้แมวด้วยละสิ

ไหนจะต้องพาไปฉีดยาและทำหมัน

สรุปว่าเสียตังค์อีกงานนี้.  

คือได้ยินคุณพ่อคุยเล่นกับแมว.  คุณแม่ก้อบ่นว่าแมวด้วยน้ำเสียงเอ็นดู  เวลาไปทานอาหารนอกบ้านก้อจะเก็บอาหารเหลือมาเผื่อแมวเหมียว  เหมือนเจ้าแมวนี่เป็นสมาชิกในบ้านเลย.  ผู้เขียนจึงต้องช่วยแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลสัตว์เลี้ยงไปด้วย.  ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วคนเกษียณอย่างเราก้ออยู่อย่างระวังเรื่องค่าใช้จ่ายมากอยู่แล้ว.  แต่เห็นทางบ้านดูมีความสุข. จึงคิดว่าอะไรพอจะทำได้ก้อจะทำค่ะ

โชคดีที่เจ้าเหมียวตัวนี้ไม่กลัวกล้องถ่ายรูป. 55555.  Post ท่าสู้กล้องได้ตลอด. เลยถ่ายรูปแมวได้อย่างสบาย



เรื่องราววันแมวๆก้อมาเอวังด้วยประการละฉะนี้.  สงสารแมว. และสงสารตัวเองไปด้วยล่ะค่ะ งานนี้...555







กรกฎาคม 27, 2561

So Sad

เมื่อวานกลับถึงบ้านประมาณสามทุ่ม ทั้งที่ก็พยายามออกจากที่ทำงานให้เร็ว เพราะรู้ว่ารถน่าจะติดกว่าทุกวัน ติดหนักทุกครั้งที่เป็นวันทำงานวันสุดท้ายก่อนวันหยุดยาว

จอดรถหน้าบ้านแล้วแต่ไม่เห็นเพื่อนรักมายืนกระดิกหางรออย่างทุกวัน ใจคิดไปว่าสงสัยคงจะไปเดินเที่ยวแถวๆนี้ ฉันเปิดประตูเอารถเข้าไปจอดตามปกติ  หยิบขยะออกไปทิ้งหน้าบ้าน  คิดว่าเดี๋ยวเพื่อนรักได้ยินเสียงว่ามีรถมากับเสียงเปิดประตูรั้วคงจะวิ่งแจ้นกลับมาบ้าน

แต่รอจนเอาผ้ามาคลุมรถเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างก้อยังเงียบเชียบ  แม่ตะโกนถามว่าเจอ "น้องเงิน" หรือยัง ฉันตอบว่ายังไม่เห็นเลย  ไม่รู้มันไปเที่ยวที่ไหน  แม่บอกว่าเอาข้าวลงไปให้มันก็ยังไม่เจอมันเลยเหมือนกัน

ฉันเลยปิดประตูบ้านไปก่อน  เข้าบ้านอาบน้ำเตรียมเข้านอนตามปกติ  แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแวบดูเป็นพักๆว่าเพื่อนรักจะมายืนรอเข้าบ้านอยู่หน้าประตูรั้วหรือเปล่า

ฉันคิดว่าอาจจะเป็นช่วงฮอร์โมนอะไรเปลี่ยนแปลงของหมาหรือเปล่า ที่บางช่วงมันจะออกไปเดินเที่ยวนอกบ้านกับตัวอื่นๆ อาจจะไม่กลับบ้านสักคืนก็ได้  พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวมันก้อคงจะกลับมารอกินข้าวเอง

เมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่  อาจจะนึกๆถึงว่าเพื่อนรักทำไมไม่กลับบ้าน เหมือนคนในบ้านคนนึงหายไปโดยไม่รู้ไปไหน ก้อมีความกังวลอยู่ลึกๆในใจ

เช้านี้เป็นเช้าวันหยุด long weekend ที่ตั้งตารอคอยให้มาถึง จะได้หยุดพักผ่อนรวมๆแล้วตั้ง 4 วัน  ฉันมีแผนการหลายอย่างในหัวที่จะทำ ฉันตื่นมาตอนประมาณหกโมงครึ่ง ได้ยินพ่อพูดกับแม่ว่า "เธอ ไอ้เงินมันตายแล้วนะ..."

ฉันหัวใจเต้นแรง...


ภาพนี้เพิ่งถ่ายไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง



ลำดับเรื่องราวแล้วน้องเงินน่าจะหมดลมหายไปตั้งแต่เมื่อวานตอนหัวค่ำ 

มันนอนหลับอยู่บนกองไม้หน้าบ้านนี่เอง และคงหมดลมหายใจไปเฉยๆด้วยความชรา   อยู่กันมาตั้งแต่มันยังเป็นลูกหมา จนถึงวันนี้น่าจะอายุไม่ต่ำกว่า 12 ปี กว่าๆ ซึ่งก้อเป็นอายุขัยที่ค่อนข้างยาวแล้วสำหรับหมา

มันก้อคงพยายามจะรอฉันกลับถึงบ้าน แต่ทว่าคงรอไม่ไหว...  เมื่อคืนที่ฉันเดินออกมาทิ้งขยะก็อยู่ไม่ห่างไปจากจุดที่มันนอนหมดลมเท่าไหร่  หน้าบ้านตรงกองไม้มันมืดมาก...ยากจะมองเห็น 

รู้สึกเศร้ามาก  กินอะไรไม่ลงเลยทีเดียว เปิดดูคลิบวีดีโอเก่าๆที่เคยบันทึกความน่ารักของเพื่อนรักไว้แล้วน้ำตาจะไหล

รู้ว่าเขาไปสบายแล้ว  ไม่เจ็บไม่ปวด  ไม่ได้บอกลา เพราะเขาเป็นหมา พูดไม่ได้

เจอเขาคืนวันพุธก้อดูทุกอย่างปกติดี  เขานั่งรอฉันหน้าประตูรั้วเหมือนอย่างทุกวัน  สายตาทีมองฉันดูนิ่งๆยังไงไม่รู้ เหมือนเค้ารู้ตัวว่าเค้าจะไปแล้วนะ

ฉันได้แต่นั่งนึกถึงวันเวลาเก่าๆ ยามฉันเศร้า  เค้าก้อจะมองฉันเหมือนรู้ว่าฉันกำลังเศร้า เค้าพูดไม่ได้ ถ้าพูดได้ก็อาจจะพูดแล้ว  ไม่ว่าจะกลับดึกดื่น เค้าจะรอ  เค้าจะคอยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ

ฉันมีถุงตีนไก่ทอดที่ซื้อเก็บเอาไว้ให้เค้าในตู้เย็น  ชามข้าวที่ต่อไปจะไม่มีเค้ามายืนกินข้าวแล้ว  กระป๋องน้ำจะไม่มีเค้ามาดื่มน้ำแก้กระหายอีกต่อไป  บ้านจะเงียบ ไม่มีเสียงหมาเห่า ฉันเหมือนขาดเพื่อนแท้ไปอีกครั้ง

พ่อเอาเค้าไปฝัง  ทุกคนในบ้านสวดมนต์ให้เขาไปดี  เกิดในที่ที่ดีกว่าเดิม 

ฉันคิดถึงเค้ามาก  ถึงแม้จะรู้ว่าเค้าก้อแก่ชรา  วันนึงเค้าก้อต้องจากไป  มันต้องเป็นเช่นนี้.

การจากไปมันทำให้คนที่ยังอยู่เจ็บปวด  บางทีเค้าที่จากไปอาจกำลังคิดถึงคนที่อยู่ไม่ต่างกัน  

หมาเป็นสัตว์ที่รักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมากๆ  วิญญานเค้าอาจจะมี  และกำลังยืนมองเราอยู่ เพียงแต่ว่าต่างคนต่างมองไม่เห็นกัน

สัตว์เลี้ยงก้อเหมือนเป็นคนในครอบครัว เห็นกัน+อยู่กันมาเป็นสิบปี  เค้าทำหน้าที่ตามแบบของเค้าเพื่อตอบแทนความรักและอาหารที่มนุษย์แบ่งปันให้

รู้สึกว่าเขียนต่อไปแล้วจะยิ่งน้ำตาไหลค่ะ  ขอจบลงตรงนี้นะคะ.

😭😭😭