สิงหาคม 10, 2565

เมื่อคนเราอิ่มใจ...แต่ไม่อิ่มท้อง



ชีวิตมันก้อเป็นซะอย่างนี้เนอะ... พอได้ทำงานที่ชอบ. ก้อกลับต้องมาปวดหัวกับเรื่องกินเรื่องใช้

ตอนนี้เริ่มจะกลายเป็น graphic designer เต็มตัว เพราะว่ารับทำงานวาง layout ทำ artwork แล้วได้เงินเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาบ้าง

อย่างไรแล้วคงจะดีกว่าทำแต่งาน stock photo แต่เพียงอย่างเดียว

คือจริงๆก้อต้องขอบคุณงาน stock photo ด้วยล่ะค่ะ. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของผู้เขียน. ในการก้าวเดินเข้ามาในสายอาชีพใหม่.  

ทำให้มีความรู้เรื่องของ Photoshop และ Lightroom  อีกทั้งเข้าใจเรื่องแสงและเงา ขึ้นมา ทั้งที่แต่ก่อนไม่รู้เรื่องเลยก้อว่าได้. 

จากเรื่องงานภาพถ่าย ผู้เขียนยังทำพวกงานภาพประกอบอีกด้วย คราวนี้เลยมีทักษะการใช้โปรแกรม Illustrator และทำไป-ทำมา. ลองเอางานภาพถ่ายมาผสมกับงานภาพประกอบ. คราวนี้เลยมีอะไรสนุกๆตามมาอีกเยอะไปหมด. รวมแล้วประมาณว่ามันคืองาน graphic design แหละค่ะ

เปรียบประดุจว่างานพวก stock ทั้งหลายแหล่เป็นดั่งชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน. ผลิตวัตถุดิบออกมาสู่ท้องตลาดเป็นภาพถ่าย เป็นภาพ elements ต่างๆนานามากมาย ซึ่งสำหรับผู้เขียนแล้วเป็นงานที่ทำแล้วมีความสุข อิ่มเอมใจ. ยิ่งเวลาขายได้ละก้อจะมีความสุขมากขึ้นไปอีก

ทว่าถ้าไม่ได้ขายผลผลิตออกไปสู่ท้องตลาดด้วยตนเองเราก้อจะได้ราคาผ่าน Agent คือผ่าน platform ที่เค้ามารับเหมาโหลงานเราไปสู่ลูกค้าตัวจริง. 

ซึ่งราคาผ่านนายหน้า หรือผ่านตัวกลางเราก้อจะได้เงินเพียงน้อยหนึ่งเท่านั้น

เค้านึกจะปรับลดโครงสร้างราคา หรือจะทำยังไงกับผลผลิตเราก้อได้ 

คนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จก็มีอยู่นะคะ. แต่ไม่ใช่เราในตอนนี้5555

อาจจะเพราะเราเป็นพวกอินดี้. ไม่ชอบทำตามกระแสขายดี.  5555 

จริงๆแล้วที่ไม่อยากทำแนวที่คนอื่นทำแล้วรวยเพราะรู้สึกว่ามันเหมือนลอกกันยังไงชอบกลค่ะ.  เวลาลองไปเปิดดู portfolio ของคนที่ทำงานด้านนี้.  บางทีภาพมันดูคล้ายๆกันไปหมด ราวกับเป็นแนวประจำชาติไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย

ก้อเลยทำตามแนวที่คิดว่าตัวเองชอบไปก่อน.  สุดท้ายได้แต่ความอิ่มใจ....รายได้ไม่เพียงพออยู่ดี ถือว่าเป็นข้อคิดสำหรับคนอีกหลายคนในวงการนี้  ว่าอยากจะทำแนวไหนค่ะ

คราวนี้พอมานั่งคิดดูใหม่. เอาทักษะที่บ่มเพาะมาใช้ในงานแปรรูปผลผลิตจะดีกว่าไหม  ตัวอย่างเช่น. เกษตรกรเอาพืชผลมาแปรรูป. เช่น จากมะนาว  ไปเป็นมะนาวดองใส่ขวด  จัดทำหีบห่อให้ดูดี  จะขายได้ราคาดีกว่าขายพืชผลแบบเหมาเป็นคันรถ

ฉันใดก้อฉันนั้น...จึงคิดว่ามาทำงานด้าน graphic design ด้วยอีกทางหนึ่งไปซะเลย. ไหนๆก้อมาทางนี้เต็มตัวแล้วเนี่ย


มีเรื่องงงๆขำๆตามประสาคนเพิ่งเข้าสู่การเป็น graphic designer คือ การตั้งราคาชิ้นงานนี่แหละ.  ไม่รู้จะตั้งอย่างไรให้เหมาะสม. 555

เมื่อล่าสุดรับงานของเพื่อนมาทำ. บอกราคาเพื่อนไป.  ก้อราคาแบบเพื่อนด้วยส่วนนึง. กับอีกส่วนคือเรารู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรเยอะ. เพราะมันง่ายยยยยแสนง่ายในแบบของเราไง

พอถึงเวลาส่งงานและรับเงิน. เพื่อนโอนมาให้ซะแบบทำไมเยอะจังงงง. ฮ่าาาา

เพื่อนบอกเคยจ้างคนอื่นมามันไม่ใช่ราคาที่เราบอกอะสิ.  เลยจ่ายมาให้ตามที่ควรจะเป็น

สรุปว่าปัญหาใหม่คือเรื่องการกำหนดราคางานนี่หละ.  คงจะต้องคิดให้เหมาะสมต่อไป

เฮ้อ....สู้กันต่อไปค่ะ

:)




สิงหาคม 04, 2565

วันแมวๆ

 


ช่วงนี้วุ่นวายอยู่กับพวกแมวๆที่บ้านค่ะ

จริงๆแล้วที่บ้านไม่ได้ตั้งใจจะมีสัตว์เลี้ยงเลย  นับตั้งแต่น้องหมาตัวก่อนหน้านี้ไปสวรรค์เพราะความชราภาพ. ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากจะเสียใจเวลามันตายจากไป และทางคุณแม่ก้อบอกว่าสัตว์เลี้ยงนี่มันเป็นภาระสำหรับท่าน  (น้องหมาสร้างวีรกรรมโหดๆไว้เยอะค่ะ)

อันนี้ต้องฟังเสียงคุณแม่เป็นหลัก. เพราะท่านเป็นผู้รับผิดชอบหลักเวลามีสัตว์เลี้ยงในบ้าน. ท่านต้องคอยให้ข้าวให้น้ำ. ตอนนี้ก้อรู้สึกว่าท่านอายุมากขึ้นตามลำดับ. ไม่อยากให้ท่านเหนื่อย  และท่านชอบบ่นๆว่าชอบปลูกต้นไม้มากกว่าเลี้ยงสัตว์

แม้ปากท่านจะบอกไม่อยากเลี้ยง. แต่เวลามีหมาแมวมาทำท่าขอข้าวกินทีไร.  เห็นท่านจะอดสงสารไม่ได้. หยิบโยนอาหารให้มันซะเป็นส่วนใหญ่.  เลยทำให้ท้ายสุดก้อต้องมีแมวจร.มาเดินวนเวียนเป็นพักๆอยู่ดี.  ทว่ามาแล้วไป. ไม่ได้ถือว่าเป็นสมาชิกในบ้านแต่อย่างใด เพราะมาแล้วไป

ตั้งแต่เมื่อปลายปี. มีแมวจรเพศเมียคาบลูกแมวน่าจะอายุประมาณ 1 เดือน ลูกแมวสองตัวแน่ะ.  มาเดินวนเวียนที่บ้าน ราวกับว่าจะหาที่ "ปล่อยของ" 555  

นางเดินวนเวียนเหมือนพาลูกมาเล่น.   มาวันเว้นวัน.  บางช่วงมาทุกวัน. ถ้าไปไล่มัน มันก้อจะหายไปครึ่งวัน. แต่รุ่งขึ้นมาใหม่. เป็นเช่นนี้แหละ

จนในที่สุดมันเอาลูกมาปล่อยทิ้งไว้ถาวร.  ตัวนางเดินหายไปไม่กลับมาให้เห็นอีกแหละค่ะ. เฮ้อ

ที่บ้านเลยไม่รู้จะทำไงได้.  เห็นลูกแมวหน้าตาแบ๊วๆ.  ไม่มีอะไรกิน. เดินไปเดินมาเพราะหาแม่ไม่เจอแล้ว ทำไงดี...เลยต้องให้อะไรมันกิน. คราวนี้เลยเหมือนจับพลัดจับผลูต้องเลี้ยงไปโดยปริยาย

เจ้าเหมียวเติบโตขึ้นตามลำดับค่ะ  ตอนนี้น่าจะอายุได้ 8 เดือน. อุปนิสัยขี้กลัว.  ชอบอยู่ใกล้ๆคน. ไม่เดินเตร็ดเตร่ไปไหนเลย. วันๆนั่งๆนอนๆอยู่แต่ในบ้าน.  เวลาใครมาก้อจะชอบทักทายและเอาใจด้วยการหงายท้องให้ชมซะงั้น

พูดถึงก้อทำให้รู้สึกเครียดน้อยลงไปหน่อยค่ะ. เวลากลุ้มๆกับชีวิต. ก้อไปเล่นเกาพุงน้องแมว. ฮ่าาาา

เกิดมาไม่เคยเลี้ยงแมวเลยยยยย

ตอนนี้ต้องหาข้อมูลยกใหญ่ค่ะ.  และเริ่มต้องซื้อพวกอาหารเม็ด กับพวกเฟอร์นิเจอร์ accessories ต่างๆนานา. เช่น.  พวกที่นอน. กระบะทราย. ฯลฯ ให้แมวด้วยละสิ

ไหนจะต้องพาไปฉีดยาและทำหมัน

สรุปว่าเสียตังค์อีกงานนี้.  

คือได้ยินคุณพ่อคุยเล่นกับแมว.  คุณแม่ก้อบ่นว่าแมวด้วยน้ำเสียงเอ็นดู  เวลาไปทานอาหารนอกบ้านก้อจะเก็บอาหารเหลือมาเผื่อแมวเหมียว  เหมือนเจ้าแมวนี่เป็นสมาชิกในบ้านเลย.  ผู้เขียนจึงต้องช่วยแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลสัตว์เลี้ยงไปด้วย.  ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วคนเกษียณอย่างเราก้ออยู่อย่างระวังเรื่องค่าใช้จ่ายมากอยู่แล้ว.  แต่เห็นทางบ้านดูมีความสุข. จึงคิดว่าอะไรพอจะทำได้ก้อจะทำค่ะ

โชคดีที่เจ้าเหมียวตัวนี้ไม่กลัวกล้องถ่ายรูป. 55555.  Post ท่าสู้กล้องได้ตลอด. เลยถ่ายรูปแมวได้อย่างสบาย



เรื่องราววันแมวๆก้อมาเอวังด้วยประการละฉะนี้.  สงสารแมว. และสงสารตัวเองไปด้วยล่ะค่ะ งานนี้...555







กรกฎาคม 21, 2565

Promotion ลดราคา E-book ลดรับเงินเฟ้อ 1 สัปดาห์

 



สภาพเศรษฐกิจช่วงนี้เป็นอะไรที่รู้กันดีอยู่ว่า "อยู่ยาก" โดยเฉพาะคนไม่มีรายได้. คนเกษียณแล้ว. คนไม่ได้ทำงานประจำอย่างเรา

ลองคิดดู. พฤติกรรมของแพง หรือ ของขึ้นราคานั่นมันมีพฤติกรรมสองแบบ คือ ขึ้นราคาแบบโจ่งแจ้ง. กับแอบๆขึ้น. คือ ลูกค้าเหมือนจะจ่ายเงินเท่าเดิม แต่ปริมาณของที่เคยได้จะลดลง

ผู้เขียนซื้ออาหารจากร้านหนึ่งเป็นประจำ.  ปลาทูทอดตัวเล็กลงกว่าเดิม. แต่ราคาเท่ากับที่เคยจ่ายค่ะ

ไม่แม้แต่ปีกไก่กลางทอด. แต่ก่อนเวลาซื้อจะนับชิ้นได้ 6. ชิ้น.ในกล่อง ตั้งแต่น้ำมันขึ้นราคาเนี่ยก็หนึ่งกล่อง. เจอไก่ทอดแค่ 5 ชิ้น

เรื่องน้ำมันขึ้นราคา ของแพงตามๆกันเป็นที่เข้าใจ

แต่ว่าพอราคาน้ำมันลง แต่ราคาข้าวของไม่ลงมาอีกนั่นหละ ที่ไม่อยากจะยอมรับ

ขอบ่นๆเรื่องของแพงซะหน่อย. คิดแล้วก็ต้องอดทนกันต่อไป. รู้สึกเงินทุนรอนที่เป็นบุญเก่าจะหดลงไปเรื่อยๆจนใจหายแล้วหายอีก.  นี่มันคือชีวิตจริงคนเกษียณที่ไร้บำนาญ

ชีวิตเหมือนโดนล้มกระดาน.  เริ่มใหม่หมด....

จึงเป็นที่มาขอโปรลดรับเงินเฟ้ออออออ.  55555. ช่วยคนรักการอ่านบ้างอะนะ

ลงมือสร้างสรรค์โปสเตอร์อลังการงานสร้างเช่นนี้   อย่าพลาดกันนะคะ  :)


พร้อม Download ไว้อ่านได้แล้ววันนี้ :


เรื่องสั้นแนวดราม่าเกี่ยวกับชีวิตคู่ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ประสบปัญหาสามีนอกใจ. 


เมื่อทุกชีวิตต่างแสวงหาความสุข-ความสมหวังในชีวิตคู่ โดยคาดหวังถึงความซื่อสัตย์จากคู่ของตน. 


แต่ในเมื่อคู่ของเรานั้นก้อเป็นมนุษย์ธรรมดาเฉกเช่นเรา. จึงไม่อาจจะหวังได้ว่าเค้าจะเหมือนเดิมตลอดไป







กรกฎาคม 07, 2565

ทบทวนชีวิต ไตรมาสที่ 3 ปักหมุดไมล์ใหม่

 



คิดๆดูแล้วบางทีชีวิตก้อเป็นเรื่องตลก  ที่ตลกก้อเพราะมันพลิกผันกันได้ง่ายดายจนราวกับว่าไม่ใช่เรื่องจริง

ใครจะไปรู้ว่าวันนี้เรากลายมาเป็นคนสร้างสรรค์งานอาร์ตไปแล้วจริงๆ.  ไม่ใช่เพียงแค่สร้างสรรค์เพราะใจต้องการจะทำ.  แต่สร้างสรรค์และต้องหาเลี้ยงชีพให้ได้อีกด้วย

บ่อยๆที่เรายังแอบเจ็บจี๊ดว่าเคยมีรายได้เท่าไหร่   ยิ่งคิดถึงสิ่งที่ผ่านพ้นไปยิ่งทำให้จิตตกไปซะเปล่าๆ. ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตในปัจจุบันดีขึ้น

เราเคยเป็นคนทำงานเยอะ   ความหมายคือรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างพร้อมๆกันจนล้นมือ.  และนั่นคงเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทำงานรับจ้าง หรือเป็นมนุษย์เงินเดือนนั่นแหละ. เรารู้สึกว่ายิ่งอายุงานนานๆไป องค์กรอาจจะลืมไปว่าเคยให้เราทำอะไรไปแล้วบ้าง.  องค์กรไม่สามารถจะหยุดนิ่งได้. เพราะการแข่งขันในเชิงธุรกิจไม่เคยหยุดเช่นเดียวกัน.  ดังนั้นเราจึงต้องน้อมรับงานใหม่และงานเก่าที่พร้อมจะเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เรื่องรายได้ที่เคยได้คงต้องมามองมุมใหม่กันหน่อย

เราคงต้องเอามาเป็นเป้าหมายในใจว่าซักวันจะต้องหาให้ได้เท่าเดิมให้จงได้.  จะได้มีพลังในการต่อสู้ต่อไป

เรื่องที่ต้องระมัดระวังคือ...บางทีเราผูกตัวเองไว้กับตัวเลขมากเกินไป. เราก้อจะเครียด.  

อย่าไปทำชีวิตตอนนี้ให้เหมือนกับชีวิตตอนเป็นพนักงาน

ที่ต้องทำตัวให้ได้ตาม KPIs ที่ต้องทำนี่-นั่น-โน่น ให้ได้ตามเป้าตัวเลขต่างๆนานา ของหน่วยงาน หรือขององค์กร ต้อง Achieve กิจกรรมหลักให้ได้เท่านั้นเท่านี้

การมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเงินเสมอไป. อย่าหลงทางทีเดียวนะเรา...

เรารู้สึกว่าตอนนี้เรามีความสุขกับการทำงานในสิ่งที่เราชอบ

แต่นั่นหละ.  เรายังต้องกินต้องใช้ และดูแลครอบครัว. เราอาจจะมีความสุขกับปัจจุบัน และอนาคตถ้าจะให้ไม่เปิดตาดูเลยคงจะเป็นไปไม่ได้

เรื่องที่เรากังวลจึงมักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคต ที่เราไม่รู้ และยังมาไม่ถึงนั่นเอง...

เราไม่รู้อนาคต. เราได้ทำทุกวันอย่างเต็มที่.  ทำงานสร้างสรรค์ไปเรื่อยๆ. มันก้อจะวนๆอยู่กับงานถ่ายภาพ. งานวาด  ถ้าเอาออกมาแตกย่อยเป็นเรื่องๆ ก้อแตกออกไปเป็นสินค้าหลายประเภทอยู่เหมือนกัน  มันขึ้นอยู่กับว่างานที่เราทำออกมาแล้วจะไปสร้างต่อเป็นสินค้าอะไรต่อไป

ตอนนี้รู้สึกว่าทักษะพัฒนาขึ้นมาในระดับหนึ่ง. สามารถรับงาน graphic design ได้แล้ว. หาเงินได้บ้างแล้ว. เรียกตัวเองว่าเป็น graphic designer และ photographer ได้อย่างเต็มตัว

ส่วนงานเขียนหนังสือ. บอกจากใจว่ายังอยากทำอยู่.  แต่เวลาไม่เหลือ5555

กลายเป็นว่าเอาความอยากทำงานด้านการเขียนมาทำ content ไปก่อน

ก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2565 แล้วนะเนี่ย... มองดูแล้วชีวิตเราก้อมีความก้าวหน้ามากขึ้น. แม้ว่ารายได้จะโตช้าเป็นหอยทาก ฮ่าาาา. คือ. ช้ายิ่งกว่าเต่าอีกอะค่ะ

แต่อันนี้ไม่ได้มานั่งปลอบใจตัวเองนะ. ถ้าเป็นกราฟจะเห็นว่ามัน Growth ยกหัวขึ้นแฮะ. ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

เราก้อได้แต่สู้ไม่ถอยค่ะ.  (เพราะถอยไม่ได้แล้ว. ถอยคือตกเหว)

สู้เต็มที่ค่ะทุกคน...ฮึบๆๆๆ