มีนาคม 22, 2566

ย้อนวันและย้อนวัยผ่านการดูหนัง | เกิดอีกทีต้องมีเธอ Dark Side Romance : Inspired by Movie

ขอขอบคุณภาพจากหอภาพยนตร์ (องค์กรมหาชน)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก website ของ หอภาพยนตร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน)


อยากจะเขียนเกี่ยวกับหนังก็ได้แต่รั้งๆรอๆมานานค่ะ. เพราะว่าไม่แน่ใจเรื่องการนำภาพประกอบของหนังมาอ้างอิงใน blog น่ะแหละ.  สุดท้ายคือเอาเป็นว่าขอใส่เครดิตภาพไว้ให้ก้อหวังว่าจะรอดปลอดภัยนะคะ คือที่ว่าจะเขียนถึงนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้ตัวหนังหรือผู้เกี่ยวข้องมีความเสียหายแต่อย่างใดค่ะ


จริงๆก้อเคยซื้อหนังเรื่องนี้เก็บเอาไว้ตั้งแต่ตอนทำเป็นวีดีโอค่ะ  คิดดูแล้วกันว่านานขนาดไหนแล้ว😚   ข่าวร้ายคือตอนนี้หาไม่เจอ.  ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ที่ไหนซะแล้ว   ไม่งั้นอย่างน้อยอาจจะสามารถ scan ปกมาให้ชมกันแบบภาพใหญ่ๆกว่านี้ได้.  หรือไม่ก็อาจจะมีพวกภาพด้านในแผ่นปกและภาพอื่นๆให้ชมกันมากกว่านี้


นอกจากนี้เพลงประกอบหนังผู้เขียนก้อยังซื้อเป็นเทปคาสเซ็ทเก็บไว้อีกต่างหาก  ตอนนั้นชอบหนังเรื่องนี้มากเลยยย.  จินตนาการย้อนไปถึงประมาณ ปี 2538 ที่หนังเรื่องนี้กำลังดัง.  ผู้เขียนเพิ่งจะเริ่มทำงานได้ประมาณสามถึงสี่ปี. เป็นวัยเริ่มต้นชีวิตจริงๆล่ะค่ะ


เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ดูหนังเรื่องนี้อีกรอบนึงผ่าน Streaming ค่ะ. โอ้วววว. นึกถึงอะไรหลายสิ่งอย่างในตอนก่อนโน้น. 


ผู้เขียนชอบดูหนังเก่าด้วยเหตุผลว่าคิดถึงบ้านเมืองของเราในอดีตค่ะ. 


ชอบจะเห็นพวกตึก. อาคารพาณิช์. ย่านการค้าต่างๆว่าสมัยนั้นรถรามันเริ่มติดหรือยังนะ.  ตอนนั้นผู้เขียนเริ่มมีรถคันแรกแล้ว.  เรื่องรถติดนี้ก้อจำไม่ค่อยได้แล้วล่ะค่ะ. 


ได้เห็นรถรุ่นต่างๆที่สมัยนั้นเค้ากำลังนิยมใช้กัน.  เห็นพวกสินค้าต่างๆที่ประกอบอยู่ในท้องเรื่อง. เออ...หนอ..เหมือนว่ากำลังได้ย้อนเวลากลับไปจริงๆค่ะ.  อดไม่ได้ที่จะคิดถึงชีวิตของผู้เขียนในตอนนั้นว่ากำลังคิดอะไร.  รู้สึกอะไร. และเกิดอะไรขึ้นบ้างกับชีวิตในช่วงนั้น


ที่แน่ๆ...คือคงไม่รู้ตัวว่า...อีก 20 กว่าปีต่อไป.  เธอจะต้องออกจากงานนะ. ....  เธอจะต้องพบกับความเคว้งคว้างของชีวิตอย่างหนัก.   หากจะเรียกว่าเป็นช่วงขาลงของชีวิตก้อไม่ผิด (ถ้ารู้ก่อนจะได้หัดเป็นคนประหยัดและรู้จักเก็บเงินให้มากกว่านี้ 😡)


ฉากที่ผู้เขียนชอบและแอบอมยิ้มคือฉากที่เพื่อนพระเอกใช้โทรศัพท์มือถืออันยักษ์แนี่ยล่ะค่ะ.   เห็นโทรๆอยู่ก้อสัญญานขาดหายไป.  ต้องมีการย้ายไปยืนตรงนั้นตรงนี้เพื่อหาคลื่นเนี่ยล่ะ  อันนี้เป็นเรื่องจริงของเทคโนโลยีในยุคนั้น.   คิดดูแล้วก้อขำๆค่ะ


ไหนจะมีมือถืออันใหญ่แล้ว.  สมัยนั้นต้องมี Pager กับเค้าด้วย.  เห็นในฉากเพื่อนพระเอกห้อย Pagerไว้ที่เอวหนึ่งอัน. (สมัยนั้นบางคนมีมากกว่าหนึ่งอันซะอีก พวกผู้ชายจะเหน็บไว้กับเข็มขัดค่ะ)  ผู้เขียนก้อมี Pager ไว้ใช้กับเค้าด้วยเหมือนกันนะคะ. ฮ่าาาา.  ยี่ห้อ Easy Call เวลาจะส่งข้อความต้องโทรเข้าโอเปอเรเตอร์ก่อน  เสียตังค์เป็นแบบค่าบริการรายเดือนและค่าส่งข้อความต่อครั้งอีกต่างหาก.   ถ้าข้อความยาวเกินไปจะตัดการส่งเป็นสองรอบ.  เวลาข้อความเข้าจะมีเสียงเตือน.  ส่วนตัวเครื่องเราสามารถตั้งให้เป็นแบบสั้นอย่างเดียวก้อได้.  แบบมีเสียงด้วยก้อได้ค่ะ


เห็นเครื่องคอมพิวเตอร์แว๊บๆในหนังด้วย.  ผู้เขียนจำได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์หน้าตาเหมือนที่มีที่บริษัทที่ผู้เขียนทำงานอยู่เลยค่ะ.  ที่ออฟฟิศจะเรียกเครื่องจอเขียว.  ลักษณะเป็นจอมอนิเตอร์ใหญ่ๆเหมือนตู้ปลา.  เวลาเปิดใช้ทำงานพื้นหลังหน้าจอจะเป็นสีดำ. ส่วนตัวอักษรจะเป็นสีเขียวนะคะ.  ต้องบอกก่อนว่าสมัยนั้นไม่มีจอ VGA หลายสี


ส่วนระบบปฏิบัติการบนเครื่อง ใช้  Dos และใช้ชุดโปรแกรมสำเร็จรูป Lotus ซึ่งทำงานคล้ายๆ Ms-Excel  ค่ะ.  เวลาจะพิมพ์งานก้อใช้พวก Word Chula  ทั้งหมดนี้ทำงานเพียงแค่สีเดียว. และใช้กับเครื่องพิมพ์แบบ Dot Matrix ซึ่งปัจจุบันนี้ยังเห็นใช้กันอยู่.  คือมันจะใช้กระดาษต่อเนื่องที่มีรูหนามเตยสองข้าง. และมีแผ่นคาร์บอน copy เป็น Layer ซ้อนในกระดาษขาวได้ด้วย


ทะยอยนึกย้อนไปทีละเรื่องสองเรื่องว่าตอนนั้นเราใช้ชีวิตยังไง.  สนุกดีค่ะ. ตกลงว่าไม่เน้นการดูหนังนะคะ.  เน้นการดูพวก Production ต่างๆ กับพวกอุปกรณ์ประกอบฉากค่ะ5555 




ข้อมูลอ้างอิง :
เกิดอีกทีต้องมีเธอ (อังกฤษDark Side Romanceภาพยนตร์ไทยในปี พ.ศ. 2538 นำแสดงโดย ทัช ณ ตะกั่วทุ่งกุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดาโชคชัย เจริญสุข กำกับโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว



ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง : เกิดอีกทีต้องมีเธอ Wigipedia



Link :

ดูหนังเรื่องนี้. :  https://youtu.be/cxp7SJIC2kA




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น