สิงหาคม 29, 2568

อาชีพนักเขียนนิยาย

 


วันนี้เป็นวันที่ผู้เขียนเริ่มต้นเขียน post ด้วยวิธีการที่แปลกกว่าทุกที และเป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้ 

คือปกติจะทำภาพที่ตรงกับประเด็นกับสิ่งที่บอกเล่าให้มากที่สุด เป็นอันดับแรก  เสร็จแล้วค่อยเขียนค่ะ 

แต่วันนี้มันรู้สึกว่าตัวเองอ่อนล้ายังไงชอบกล  ไม่ใช่ว่าเขียนไม่ออก  ดูแล้วน่าจะเหนื่อยมากกว่าค่ะ

การเป็นนักเขียนนิยายนี่มันเหนื่อยได้ขนาดนี้  คือต้องคิดเยอะมากค่ะ อย่างที่เคยบ่นไปแล้วหลายครั้ง และวันนี้คงไม่บ่นซ้ำ5555  ตอนนี้ เธอคือพันธนาการรัก ขอสลักไว้แนบใจ ใกล้จบแล้ว กะว่าอีกประมาณ 10 ตอนก็จะม้วนตัวอวสานลงอย่างสวยงาม

หลังจากเขียนมาได้ 1 ปีแล้ว เกิน 1 ปีซะด้วยสิคะ  ต้องขอบคุณนักอ่านที่ยังอุตส่าห์อ่านเป็นเพื่อนกันมาเป็นปี  ผู้เขียนเห็นนิยายรายตอนที่เป็นนิยายจีน บางเรื่องมี 4,000 กว่าตอน โอ้โห.... ไม่รู้เหมือนกันว่านิยายไทยจะมียาวขนาดนั้นไหม

คนอ่านบางคนอาจตามอ่านมานานแล้วเกิดความผูกพัน 5555 คือเมื่อไหร่เธอจะเขียนจบ ฉันรอ ฮ่าาาา

อยากให้ผูกพันกับทั้งตัวละคร และคนเขียนนะคะ  อิอิ  ว่าแต่เรื่องใหม่ก็รอต้องเขียนกันต่อไป ตอนนี้เลือกอยู่ในหัวสมองว่าเขียนเรื่องไหนก่อนดี บาง plot นี่รู้สึกว่ายิ่งใหญ่มาก จนเป็น Masterpiece ได้เลย แต่พอมาคิดอีกที เอาไว้ก่อนเหอะ  รายละเอียดยังไม่ค่อยจะมีค่ะ ขืนปล่อยเรื่องออกไปต้องมีการเหนื่อยขั้นหนัก เหมือนเรื่อง  เธอคือพันธนาการรัก ขอสลักไว้แนบใจ นี่ละค่ะ คือเรื่องนี้มี plot แค่ การแต่งงานภาคบังคับ 

มีแค่นี้จริงๆค่ะ สาบาน

พอแต่งงานแล้วค่อยรักกัน  ความใกล้ชิด การช่วยเหลือ การเป็นที่พึ่ง การผ่านอุปสรรคด้วยกัน ต่างๆนานาเหล่านี้จะทำให้คนรักกัน

เหมือนจะง่าย แต่พอลงมือเขียน  อ้าว...แกนหลักย่อมจะไม่เป็นเรื่องความรักอย่างเดียวแน่ๆ อันนี้เป็นสไตล์ส่วนตัว แล้วไงต่อ...ต้องสร้างตัวละครใหม่หมด ไม่มีใครในเรื่องนี้ที่เหมือนใครสักคนในชีวิตจริงของผู้เขียนเลยค่ะ

งานงอกล่ะค่ะ งานช้างด้วย...เมื่อต้องสร้างใหม่หมด ก็ต้องใช้ความคิดและการหาข้อมูลอย่างหนัก

แต่โชคดีนะคะ พอเข้ากลางๆเรื่อง ผู้เขียนชักจะรู้สึกว่าตัวละครเหมือนมีจริง เพราะผู้เขียนเริ่มจะเข้าถึงจิตใจเขาได้อย่างน่าประหลาด

พอเขียนใกล้จบก็รู้สึกโล่งอก  ผ่านไปอีก 1 ปี กับอีก 1 เรื่อง โธ่---อย่างนี้เมื่อไหร่จะรวยล่ะ ฮ่าาาา  คงต้องเขียนงานกันแบบเอาชีวิตเข้าแลกไหมคะ  เอาสักปีละ 2 เรื่อง เป็นไง...จะตายไหมเนี่ย หรือต้องเข้าโรงพยาบาล คนอื่นทำได้ แต่เราทำไม่ได้...ก็ไม่ต้องฝืน

นักเขียนหลายคนอายุน้อยกว่าผู้เขียน บอกว่าเขียนนิยายแล้วปวดหลัง ปวดตา ปวดหัว

สรุป  ปีหน้าจะเขียนให้ได้ 2 เรื่อง คอยดู...5555 แต่จะปล่อยให้อ่านรายตอนเรื่องเดียวนะคะ อีกเรื่องเก็บไว้เขียนให้จบแล้วจะปล่อยขึ้นให้อ่านค่ะ เพราะว่าไม่อยากกดดันตัวเอง

ลองมาดูกันซิ ว่าจะทำสำเร็จไหม  อันนี้ Goal ของปี 2569 

ตอนนี้ผู้เขียนค่อนข้างจะกล้าบอกชาวโลกแล้วว่าตัวเองมีอาชีพนักเขียนนิยายค่ะ หลังจากนิยายเรื่องแรกได้รับการต้อนรับพอสมควร รวมๆแล้วก็ประมาณ 40,000 กว่า view แต่รายได้ถือว่าเล็กๆน้อยๆ ค่ะ ยังไม่เพียงพอต่อการมีชีวิตในโลกยุคนี้ 

1 รายตอนที่ลงไป หากมีคนซื้อเหรียญเพื่ออ่าน ตามเงื่อนไขของแต่ละ Mobile Application ก็มักจะต้องหักเงินบางส่วนเอาไว้ กว่าจะถึงกระเป๋าเงินของนักเขียน ขอบอกเลยว่าเหลือแค่หนึ่งถึงสองบาทค่ะ

ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องเขียนสัก 20 เรื่องแล้วจะปังงงงงเปรี้ยงๆๆๆๆไหม ก็บอกยากค่ะ 

อยากจะมีซัก 40 เรื่อง 5555 แต่ว่าผู้เขียนแก่ชรามากแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าจะมีชีวิตอยู่อีกนานแค่ไหน ถ้าอายุสัก 65 จะยังไหวอยู่ไหม (ตอนนี้ยังแค่เลขหลัก 5 อยู่นะคะ) คือกะว่าชีวิตนี้จะเขียนจนกว่าจะตายเลยค่ะ

คือเรื่อง ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว ค่อนข้างได้รับการต้อนรับที่ดี  แม้ว่า เธอคือพันธนาการรัก ขอสลักไว้แนบใจ จะได้รับความนิยมไม่มากเท่า ผู้เขียนก็ไม่เสียใจ ยังไงก็ทำดีที่สุดไปแล้ว 

มีคำคมบอกว่า ความพยายามเป็นเรื่องของมนุษย์ แต่ผลลัพธ์เป็นเรื่องของสวรรค์จะพิจารณา

ผู้เขียนไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมคนจึงชอบบางเรื่องมากกว่า ก็พยายามเดาไปต่างๆนานาค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้สวรรค์พิจารณาแล้วบอกว่า ฉันให้เรื่องแรกเธอปังก่อน เป็นสัญญาณว่าเปิดทางให้เธอเข้าสู่อาชีพนี้ได้ และเธอจงทำต่อไป สัตย์ซื่อต่ออุดมการณ์ของเธอ ว่านิยายเธออ่านแล้วจะได้ความคิดดีๆ ติดไปด้วย

เอาเป็นว่า....เป็นนักเขียนนิยายแล้ว ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด


เหนื่อยหน่อยแต่ก็จะสู้นะคะ  ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ

เดี๋ยวต้องไปทำภาพมาประกอบอีกละ Bye ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น