ตุลาคม 10, 2567

การเขียนนิยายจบ คือการชนะตัวเอง

 


และแล้วก็มาถึงจุดนี้อีกแล้วค่ะ ...จุดท้อใจ

เมื่อวานนัดเจอกลุ่มเพื่อนๆได้ปาร์ตี้แบบเบาๆ ประสาคนวัยเลขห้า up ที่ประกาศตัวเป็นอิสระจากการทำงานลูกจ้างแล้ว 2 คน คนหนึ่งก็ผู้เขียนที่เข้าโครงการ early retire แบบฉุกละหุก กับเพื่อนอีกคนที่เพิ่งจะ early ออกมาได้ห้าเดือนกว่าๆแล้ว อันนี้นางสมัครใจ early และมีการวางแผนชีวิตเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะ retire ก่อน 60

คนเพิ่งเกษียณออกมาใหม่ๆดูมีความสุข  เหมือนกับผู้เขียนตอนโนันนน เลยค่ะ  

แต่เมื่อเวลาผ่านไปมากขึ้น นานขึ้น พอได้พบกับชีวิตจริงที่มีอะไรมากมายผ่านเข้ามา และทำให้เรายังหารายได้เข้ามาได้น้อยกว่าคาด จะเริ่มทุกข์5555

อะไรๆมันดูยากไปหมด และไม่คุ้มเหนื่อย มีแต่การลงทุน ลงแรงกาย แรงใจมหาศาล

ถ้ามองเรื่องความคุ้มตอนนี้ยังไม่คุ้ม  ว่ากันว่าต้องใช้เวลาหลายปี ไม่ใช่ปีสองปี  พอนี่ผ่านมาได้เกินห้าปีแล้วยังมีแสงสว่างเรืองๆรำไรๆ ก็คิดว่าคำนั้นไม่เกินจริงเลยค่ะ 

ยิ่งแตกแขนงสินค้าเพิ่ม ก็ต้องลงทุนเพื่ม เช่น หาความรู้เพิ่ม อุปกรณ์เพิ่ม และต้องให้เวลาในการฝึกฝนเพิ่ม ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม... มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นความหวังค่ะ 

ผู้เขียนยังยืนหยัดว่าต้องสร้างช่องทางหารายได้ให้มากกว่าหนึ่งช่องทาง  ด้วยเหตุผลว่ารายได้ยังไม่พอกับรายจ่ายประการหนึ่ง  และอีกอย่างคือต้องกระจายความเสี่ยงค่ะ ทำอย่างเดียวไม่ได้เด็ดขาด เพราะกว่าจะสร้างช่องทางที่สองหรือสาม สี่  มันต้องใช้เวลาอีก ถ้าไม่สร้างรอไว้ก่อนบ้างเพื่อศึกษาตลาด ทำความเข้าใจตลาด...คราวนี้ไม่ทันกินแน่

ออกนอกเรื่องไปเสียไกล...จุดท้อมันคือตรงไหน อย่างไร

ช่วงนี้ผู้เขียนท้อๆกับการเขียนนิยาย  ลุ้นยอดวิวรายตอนจนจิตตก  พาลอยากจะหยุดเขียนไปก่อนสักพักใหญ่จะดีกว่ามั้ย   ทั้งที่ก็ควรจะทำใจให้ได้ กับการเป็นนิยายแนวชีวิต  ที่คนไม่ค่อยอ่านกัน  

นี่เป็นบททดสอบกำลังใจเลยทีเดียว  ว่าเราควรต้องเอาชนะความท้อเล็กๆน้อยๆ ระหว่างเส้นทางนี้ให้ได้ ซึ่งนิยายเรื่องที่สองนี้ปัญหาต่างจากเรื่องแรก

เรื่อง ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว ความที่เป็นของเดิมเอามาปรับใหม่ และไม่มีโครงเรื่องชัดเจนในตอนแรกๆ ทำให้มีปัญหาเรื่องต้องใช้ความคิดอย่างหนัก(มากๆๆ) สุดท้ายก็โชคดีที่ทุกอย่างลงเอยอย่างลงตัว

เรื่อง เธอคือพันธนาการรัก ขอสลักไว้แนบใจ ไม่มีปัญหาข้างต้น...ทุกอย่างถูกวางเอาไว้หมด  แต่ก็ยังต้องใช้พลังงานความคิดเยอะอยู่ดีใน detail รายตอน

แต่รวมๆแล้วคงเป็นด้วยแนวเรื่องไม่ได้ตื่นเต้น หวือหวา  อาจจะทำให้คนอ่านส่วนใหญ่ไม่ชอบก็เป็นได้ค่ะ

แม้จะอยากลองเขียนแนวแต่งงานโดยไม่ได้รักกันมาก่อนในสไตล์ที่แตกต่าง ก็อาจยังขาดความน่าสนใจ

... 

สรุปว่าหากเขียนจบได้อีกสักเรื่องหนึ่ง ก็ถือว่าเอาชนะตัวเองได้ล่ะค่ะ

ซึ่งก็ต้องพยายามกันต่อไปอีกแหละ...เฮ้อ

....



ตุลาคม 03, 2567

ชื่อตัวละครนั้นสำคัญ...และชวนปวดหัว


 

ชื่อตัวละครสำหรับผู้เขียนสำคัญมากๆทีเดียวค่ะ...

ถ้าชื่อถูกใจละก้อ...จะทำให้มีแรงฮึดเขียนต่ออีกเยอะเลย

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น...ก็ไม่รู้สิคะ 5555 เดี๋ยวจะหาว่าพูดจากวนโมโห  คือว่าเป็นจริตส่วนตัวค่ะ  สังเกตตัวเองจากที่ผ่านมา(ย้อนหลังไปไกลโพ้น จวบจนปัจจุบัน)  ก็พบว่าตัวเองให้ความสำคัญมากในการคิดชื่อ  บางทีคิดชื่อเอง เอาแบบตัวเองถูกใจ กับเดี๋ยวนี้ต้องเปิดตำราตั้งชื่อเลยก็มีค่ะ

ถ้าไปเห็นนิยายของนักเขียนท่านอื่นที่บังเอิญชื่อตัวละครไม่ถูกใจ ก็พาลไม่อ่านต่อไปเลยซะงั้นค่ะ  เช่น  บางชื่อที่เป็นตัวเอก แต่ตั้งมาธรรมดา เรียบๆ มาก ทั้งที่เป็นเนื้อเรื่องยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ยุคพีเรียดไทย ที่เข้าใจได้ว่าคนสมัยก่อนชื่อมักจะเป็นคำไทย  คำมูล คำเดี่ยวๆพยางค์เดียวหรือสองพยางค์เท่านั้น

อันนั้นเข้าใจว่าตัวละครเป็นชาวบ้าน คนทั่วไป

แต่ถ้าเป็นลูกเจ้าขุนมูลนาย  เดาว่าต้องให้พระสงฆ์ตั้งให้ ดังนั้นชื่ออาจจะมีรากศัพท์มาจากภาษาบาลี-สันสกฤตนิดนึงป่าวคะ  คือชื่อจะวิจิตรพิสดารกว่าคนธรรมดา

เล่าให้ฟังเล็กน้อย ว่าก่อนจะมาเป็น "ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว" เวอร์ชั่น 2567 หรือ 2024 มีการเปลี่ยนชื่อพระเอก-นางเอกมาแล้วหลายรอบ  ดีนะยุคนี้ใช้ Microsoft Words พิมพ์ได้  การสั่ง Find and Replace เป็นเรื่องง่าย จึงไม่ยากต่อการแก้ไขค่ะ

ชื่อพระเอก โรมรัน ออกแนวทหารๆหน่อย เพราะพระเอกเป็นทหาร เหมาะสมดีค่ะ

ชื่อนางเอก กชชรีย์ อันนี้ไม่มีความหมาย หรือ หาความหมายไม่เจอ เพราะผู้เขียนชอบเสียงพยางค์ท้ายสุดของชื่อที่เป็นเสียงสระอี  คิดว่าเหมาะกับผู้หญิง

ส่วนเรื่องปัจจุบันที่กำลังเขียนอยู่ "เธอคือพันธนาการรัก ขอสลักไว้แนบใจ"  อยากให้ชื่อพระเอกนางเอกเค้าคล้องจองกันซะหน่อย  แหม...ก็เขาเป็นคู่กันนี่เนอะ  จึงมาเป็น ณทัต และ ภัสรวินทร์

ปัญหาเริ่มเกิดตอนชื่อนางเอกนี่ล่ะค่ะ  ตอนแรกตั้งเป็น ภัทร+รวินทร์ = ภัทร์รวินทร์  โอ้โห...เขียนมาได้ 5-6 ตอน คนเขียนเวียนหัวกับ "ทร์" ที่มีอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลังชื่อ รู้สึกมันรุงรังไปแล้วววว

เลยต้องเปลี่ยนค่ะ  เป็น "ภัสรวินทร์" อ่านว่า พัด-ระ-วิน  ถ้าอ่าน พัด-สะ-ระ-วิน ก็อ่านได้ค่ะ แต่มันสี่พยางค์ ดูยาวเยอะเกินไปอีก 55555😂

เขียนไปเขียนมา หันไปดูที่ตัวเองพิมพ์...ไหงเขียนเป็น ภัสวรินทร์  คือ ว กับ ร สลับที่กัน...กลายเป็น พัด-วะ-ริน

โอ๊ย...หัวจะปวดมั้ยล่ะ 55555 (หัวเราะอีก)


ทีนี้ไม่ใช่แค่ชื่อนางเอกที่ทำให้ยุ่ง ต่อมาเป็นชื่อคุณปู่ กับคุณพ่อพระเอก

เค้าพ่อลูกกัน  แถมคุณปู่เป็นต้นตระกูล เป็น Founder บริษัท คุณปู่ชื่อ เวคิน อัษฎางค์เวคิน

พอมารุ่นลูกคุณปู่ ซึ่งคือพ่อพระเอก ชื่อ วาคิน...

สรุปคือคนเขียนกลัวว่าคนอ่านจะงง  ซึ่งคนอ่านอาจจะไม่งงก็ได้ค่ะ5555 แต่คนเขียน...งงเอง

ฮ่าาาา  แต่คราวนี้ขอปล่อยเลยตามเลยนะคะ   ทั้งหมดนี่เอาเบื้องหลังของตัวเองมาเขียนให้อ่านสนุกๆค่ะ

ทว่า...ที่เล่าไปก็เรื่องจริงนะคะ 😍



ขอบคุณที่ติดตามค่ะ



เธอคือพันธนาการรัก ขอสลักไว้แนบใจ

อ่านบนมือถือ ใน ReadAWrite : https://www.readawrite.com/.../3fee2a0c76adb67b63a9cdaac0... 
อ่านบนมือถือ ใน Dek-D : https://writer.dek-d.com/Pakk.../story/view.php%3Fid=2575342