หากเดินตามร้านหนังสือในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา ผู้เขียนรู้สึกว่าเห็นหน้าแผงมีนิยายจีนวางบนชั้นอยู่มากมายหลายเรื่อง และมีมากยิ่งขึ้นไปอีกคือหนังสือที่แปลมา
ในช่วงก่อนหน้าเหมือนว่านักเขียนไทยหลายคนหันไปเขียนนิยายจีน บ้างใช้นามปากกาเป็นขื่อไทย บ้างใช้เป็นชื่อจีนเลยก็มี
อันนี้ไม่ได้หมายถึงนิยายจีนรุ่นคลาสสิคอย่างพวก ฤทธิ์มีดสั้น หรือพวกของโกวเล้งนะคะ แต่กำลังพูดถึงแนวรักโรแมนติก รวมไปจนถึงแนว boy love ที่ปกสวยเตะลูกตามาก
คิดว่านักเขียนไทยคงจะทำงานกันไม่ทันความต้องการของตลาด บรรดาสำนักพิมพ์เลยต้องซื้อลิขสิทธิ์นิยายจีนมาแปลเพิ่ม
ที่กล่าวไปนั้นเป็นนิยายที่พิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่ม อยากจะพูดถึงนิยายจีนที่อยู่บน platform online บนมือถืออีกหลายจ้าวด้วยค่ะ ที่นำเสนอนิยายจีนเต็มไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นแนวแฟนตาซี หรือแนวรัก แนวเกิดใหม่ แนวทะลุมิติ ฯลฯ
การตั้งชื่อเรื่องนิยายก็พลอยแหวกจากขนบที่เคยเห็นด้วยค่ะ เช่น ใช้ชื่อยาวมากๆ บางทีใช้ภาษาเหมือนภาษาแปล
ใครเขียนแนวนี้ได้ดูท่าจะเงินเข้ากระเป๋าเยอะทีเดียว พอๆกับนักเขียนนิยายวายเลยค่ะ
ตัวผู้เขียนเองก็อยากจะมีรายได้จากการเขียนบ้างเหมือนกัน 5555😅 แต่ก็เขียนได้เพียงแนวรักทั่วไปนี่หละค่ะ แค่นี้ยังเหนื่อยหอบแทบแย่กว่าจะหลุดออกมาได้ทีละตอน เฮ้อ
หวังว่าจะมีโอกาสได้เขียนนิยายจีนบ้างในโอกาสต่อไปค่ะ เพราะว่ามีนิยายจีนเก่าที่เคยเขียนจบไว้แล้ว 2-3 เรื่องอีกเหมือนกัน ต้องเอามาปัดฝุ่นกันใหม่
คิดแล้วก้อขำตัวเอง ภาษาจีนก็ไม่รู้เรื่อง ยังบ้าบอแต่งออกมาได้เนอะ
คือตอนนั้นมัน in มากกับการดูหนังกำลังภายใน ในช่วงเวลานั้นใครไม่ได้ดูพวก กระบี่ไร้เทียมทาน หรือ มังกรหยก ละก็เชยสุด คุยกับเพื่อนที่โรงเรียนไม่รู้เรื่องแน่
ต้องเข้าใจนะคะว่าเด็กยุค 80 นี่เค้ามีความสุขกับการดูทีวี กับดูการ์ตูนช่อง 9 วันหยุด ส่วนวีดีโอนี่เพิ่งมาทีหลังค่ะ
ผู้เขียนคิดว่าอยากเขียนเกี่ยวกับเรื่องจอมยุทธหญิง ฮ่าาาาา โปรดรอติดตาม เดี๋ยวต้องไปคิดนามปากกาใหม่ด้วยค่ะ 555555 (หัวเราะกว้างเลยทีนี้)
ว่าแต่เรื่อง ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว ยังเขียนไม่จบเลยค่ะ ขอเอาให้จบเป็นเรื่องๆ เอาฤกษ์เอาชัยไว้ก่อนนะคะ ออนไลน์ไปหลายบทแล้วจ้าาาา
นักอ่านก้ออ่านกันเงียบกริบ คือไม่มีใครคอมเมนต์อะไรเลยค่ะ (เหงื่อตก)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม blog และผลงานอื่นๆของผู้เขียนนะคะ