มกราคม 26, 2566

ชีวิตการทำงาน...มีวันหมดอายุ

 


ของทุกอย่างในโลกใบนี้. เหมือนจะอยู่บนเส้นสัจธรรมเดียวกัน คือ เข้ามา...และจากไป

อยากเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา. เพราะได้รับรู้เรื่องราวของคนที่บริษัทที่เคยร่วมงานกันมา.   และแม้จะเป็นเพื่อนร่วมงานที่อยู่ต่างหน่วยงาน และเป็นรุ่นน้องผู้เขียนหลายปี. แต่ก้อรู้จักและคุ้นเคยกัน

ตั้งแต่ผู้เขียนมีเหตุอันต้องเกษียณก่อนวัยอันสมควรออกมา. ก้อไม่ได้มีโอกาสติดต่อกับใคร.  มีหลายเหตุผลที่เราต้องวางตัวให้เหมาะสมกับการเป็นศิษย์เก่าไปซะแล้ว.   ไม่ควรจะไปรับรู้แล้วจะมีความคิดเห็นต่างๆนานาในหัวสมองขึ้นมา. แล้วมันไม่ได้มีประโยขน์อะไรกับชีวิตเรา 

หลายครั้งยังนอนหลับฝันเห็นชีวิตตอนยังอยู่ในออฟฟิศด้วยซ้ำไป.  ก้อแน่ล่ะ.  โลกเกินครึ่งชีวิตของผู้เขียนอยู่ในนั้น. ทั้งผู้คนที่เคยร่วมงานกัน. ก้อคนที่บริษัททั้งนั้น.  ชีวิตนี้คงลบออกไปไม่ได้หรอกค่ะ

ย้อนมาเข้าเรื่องค่ะ

ผู้เขียนได้รับมาว่าน้องคนนี้ซึ่งยังทำงานอยู่. อยู่ดีๆนั่งทำงานแล้วคงจะวูบคาโต๊ะทำงาน.  พอส่งโรงพยาบาลคราวนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้วแต่สภาพไม่เหมือนเดิม

เข้าใจได้ทันทีว่าน้องงานหนัก. เพราะทำงานเป็นผู้บริหารทางด้านการเงินของบริษัทด้วยล่ะค่ะ. 

สมัยตอนยังอยู่ที่บริษัท.  เจอน้องหน้าตาเหน็ดเหนื่อย. และมาบ่นให้ฟังประจำว่าน้องเครียด. น้องงานเยอะมากกก. ส่วนผู้เขียนเป็นฝ่ายบุคคลที่แสนใจดีก้อจะรับฟังเป็นอย่างดี.  และนึกไปว่า  พี่ก้องานเยอะเหมือนกัน. เจอหน้าใครโดยเฉพาะพวกผู้บริหารด้วยกันก้อจะบ่นเรื่องงานเยอะเหมือนกันหมด

น้องเป็นเด็กรุ่นน้องที่ทำงานดี. วินัยดี และจิตดี.  จึงได้รับการโปรโมทให้เป็นเหมือน sucessor ของผู้บริหารอีกท่านนึงที่เกษียณไปตามอายุขัยไปแล้ว

แน่ล่ะ.  เป็นผู้บริหารแล้วดูเหมือนจะได้ค่าตอบแทนมากขึ้น. สิทธิประโยชน์ต่างๆที่ไม่ใช่เพียงตัวเงินก้อมากขึ้น

แต่ใครจะเอาไหม ....ถ้า

เราต้องรับผิดชอบมากขึ้นเรื่อยๆจนร่างกายเรารับไม่ไหว

ความเครียด. ความกดดัน   โปรเจ็คต่างๆมากมายนอกเหนืองานในความรับผิดชอบ.  การบริหารลูกน้อง แรงเสียดทานระหว่างการทำงาน.  ทุกอย่างจะพุ่งตรงมาทางเรานี่หละ

ผู้เขียนเองตอนทำงานก้อป่วยจนค่ารักษาพยาบาลเกิน limit. 

เพราะชีวิตไม่เคยได้อะไรมาง่ายๆ.  ต้องเหนื่อย ต้องพยายาม. ต้องฝึกฝนตัวเอง. ต้อง ฯลฯ

ทั้งไมเกรน. ปวดหัวปวดท้อง  ทั้งลำไส้แปรปรวน. กรดไหลย้อน. นอนไม่หลับ. ปวดหลัง กล้ามเนื้อตึง.  มาเป็นขบวนเลยค่ะ

ได้ยิน ได้อ่านและได้ฟังว่า. พออายุมากขึ้นหลายๆอย่างมันจะไม่เหมือนเดิม. มันจะเสื่อมถอย

เราก้อนึกภาพไม่ค่อยออกค่ะ.  ตอนยังทำงานอยู่มัวแต่คิดถึงความรับผิดชอบ

แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ


ปัจจุบันทราบว่าน้องไม่เหมือนเดิมแล้ว.กึ่งๆว่าทุพพลภาพ  ทำงานในตำแหน่งเดิมไม่ได้.  บริษัทโอนย้ายน้องไปทำหน้าที่อื่นที่พอให้น้องประทังชีวิตต่อไปได้บ้าง.   เพราะน้องต้องรักษาตัวอีกเยอะ.   และน้องเป็นสาวโสดตัวคนเดียว.  อยู่คนเดียว.  เหมือนคุณพ่อคุณแม่ก้อเสียชีวิตหมดแล้ว.  พี่น้องก้อไม่มี

เดชะบุญ. บุญเก่าน้องยังมี.  มีเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นน้องผู้หญิงพาไปอุปการะที่บ้าน. พาไปอยู่ด้วยและดูแล.  

อะไรจะจิตใจประเสริฐขนาดนี้.  ในโลกนี้ยังมีเรื่องดีๆอยู่เหมือนกันนะ

ผู้เขียนได้รับทราบถึงตรงนี้น้ำตาจะไหลไปด้วยเลยค่ะ สาธุ...🙏


ทุกวันนี้ผู้เขียนรู้สึกตัวว่าทำงานตลอดเวลา.  คิดอยู่ตลอดเวลา. ถึงเรื่องงาน. การทำมาหากินของตัวเอง  ซึ่งไม่ได้ใช้ชีวิตแบบชิลๆ.  เพราะว่าเรายังต้องหาเลี้ยงชีวิตอยู่. 

แถมช่วงนี้รู้สึกปวดตามาก. และนอนไม่หลับ. ไม่รู้ว่าเคมีในร่างกายมันไม่สมดุลย์ หรือว่าเครียดเกินไปกันแน่

อายุที่มากขึ้นมันทำให้เราทำอะไรไม่ได้เท่าเดิมอีกต่อไปค่ะ

แล้วจะอยู่ต่อไปยังไงดีคะเนี่ย...ขำไม่ออก

 ยังคิดต่อไปว่าตอนนั้นหากผู้เขียนไม่ได้ตัดสินใจเกษียณอายุก่อนกำหนดออกมา...อาจจะมีเหตุการณ์สลบคาโต๊ะทำงานเหมือนกับน้องก้อได้


เลือกชีวิตที่เหลืออยู่ไม่มาก

...จริงๆนะคะ🍓


มกราคม 18, 2566

อยากกลับไปวาดภาพบนผืนผ้าใบ




สองสามวันมานี้อากาศกลับมาเย็นลงอีกรอบล่ะค่ะ

ผู้เขียนชอบอากาศของเดือนธันวาคมที่ผ่านมากับเดือนนี้จัง.  อากาศเย็นสบายดีนะคะ. ทำให้นึกภาพตัวเองกำลังยืนวาดภาพบนผืนผ้าใบขึ้นมาเลย

การวาดภาพบนผืนผ้าใบนี่ก้อไม่ได้ทำมานานมาก.  นึกถึงภาพล่าสุดที่ใช้วาดบน Easel หรือว่าขาตั้งวาดภาพนี่ก้อน่าจะตั้งแต่ประมาณปี 2543 แถวๆนั้น

นับแล้วคงจะยี่สิบปีก่อนทีเดียว

ช่วงนั้นบ้าพลัง.  ก้อเป็นช่วงวัยที่ยังมีพละกำลังล่ะค่ะ.  อยากจะรู้ว่าเค้าวาดรูปสีน้ำมันบนผ้าใบมันเป็นยังไง. เลยระห่ำซื้อสีน้ำมันกับพวกอุปกรณ์มาซะเพียบ

ที่ซื้อๆไปนั้นไม่ได้ซื้อในคราวเดียวพร้อมๆกันนะคะ. ไม่ได้ร่ำรวยซะขนาดนั้น. ก้อเป็นคนทำงานกินเงินเดือนเหมือนคนอื่น. อยากได้อะไรต้องค่อยๆซื้อสะสมไปเรื่อยๆ.  ป่านนี้ยังเก็บสีหลอดๆไว้อย่างดีค่ะ.  

ไม่รู้ตัวล่วงหน้าหรอกว่าวันหนึ่งต้องออกมาใช้ชีวิตแบบนี้😓

ที่เก็บสีและพู่กันเอาไว้อย่างดีเพราะเป็น"ของรัก" ไงคะ

และของพวกนี้เป็นของมีราคาแพง. สีหลอดนึงหลายร้อยบาทอยู่ค่ะ  ส่วนใหญ่ไปเดินซื้อในห้าง เพราะสะดวกในการจอดรถและหาอะไรกิน แถมมีร้านหนังสือใหญ่ๆให้เดินดูด้วย.  Life Style ในเวลานั้นเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ

จะว่าไปสมัยนั้นยังไม่มีการค้าขายออนไลน์นะคะ. อินเตอร์เนตยังต้องใช้โมเด็ม 52K ผู้อ่านจะรู้จักกันมั้ยคะ5555. เวลาต่อติดจะดังตื๊ดๆเหมือนเสียงส่งแฟกซ์สำเร็จ. ความเร็วอินเตอร์เนตก็ว่าเร็ว. แต่คงไม่เท่า 4G หรือ 5G หรอกค่ะ

ส่วนสมาร์ทโฟนก็เพิ่งจะเกิด. แอปอะไรก้อยังไม่ค่อยมีค่ะ

เดี๋ยวนี้อุปกรณ์วาดรูปหาง่ายกว่าตอนนั้นมาก   อะไรๆก้อมีขายในออนไลน์ค่ะ.  ของจากจีนมาเพียบบบบ

ก้อต้องเลือกกันให้ดีค่ะ. ส่วนใหญ่ก้อคุณภาพใช้ได้.  ราคาดี. ไม่แพงค่ะ. เสียแต่รอนาน

สำหรับผู้เขียนก็ไม่ค่อยจะได้ซื้ออะไรเพิ่มเท่าไหร่. ส่วนใหญ่มีหมดแล้ว.  บางทีมีบ้างค่ะ ยังอยากลองพวกสี oil pastel เห็นมีสีเยอะให้เล่น.  แถมจัดเฉดสีมาเป็นชุด.  กล่องนึงไม่กี่ร้อยบาท. ยังอดใจไม่ไหวเลยค่ะ

เดี๋ยวนี้เหมือนจะฮิตสี gouache กันขึ้นมาซะอีก. ใน youtube นี่มา draw with me กันเต็มไปหมด. เห็นเค้าวาดก้ออยากทำมั่งค่ะ5555😄

อากาศดีอย่างนี้วาดรูปกลางที่โล่งคงจะฟินนนนในอารมณ์มากแน่ๆเลย.   เพราะได้เห็นสีเห็นแสงชัดเจน

ก้อได้แต่อยากตามเคย...

สุดท้ายต้องวาดบนคอมพิวเตอร์ หรือวาด digital ก่อนล่ะค่ะ.  เพราะว่าคือการทำมาหากิน


ถ้ายังไม่ตายซะก่อน. สักวันคงได้วาดสีน้ำมันอีกครั้ง

....


ดูรูปผลงานเก่าๆไปก่อนเนอะ...

🌺


มกราคม 11, 2566

ข้ามมาอีกหนึ่งปีแล้วจ้า

 


ในที่สุดชีวิตก้อผ่านไปอีกหนึ่งปีแล้วสิคะ

นั่งถามตัวเองว่า ชีวิตดีขึ้นบ้างมั้ย....อืมห์

ปีนี้ไม่คึกคักหรือตื่นเต้นในการลุกขึ้นมาตั้งเป้าหมายเหมือนทุกปีที่ผ่านมาค่ะ.

เป็นเพราะว่า,.......เป้าหมายของปีที่แล้วยังทำได้ไม่ครบไงคะ. 5555 หัวเราะตามเคย.  บางเรื่องไม่ได้ทำเลย. บางเรื่องยังไปไม่ถึงไหน.  เรื่องใหม่ๆที่เพิ่งจะเข้ามาก้อยังต้องวิ่งไล่ล่ากันต่อไปอีก.  เฮ้อ


เหนื่อยค่ะ.  เหนื่อยและเหนื่อย

ในโลกของ art หรือ art industry ที่เข้ามาเต็มตัวเนี่ยไม่ใช่จะง่ายเลย. มันมีอะไรใหม่ๆเข้ามาตลอด. เหมือนการเอาเรื่อง art มา bundle กับเรื่องโน้น เรื่องนี้.  จะกลายเป็นเรื่องใหม่ๆขึ้นมา. ทำให้ต้องพยายามวิ่งตามให้ทัน.  

เหมือนตัวเองวิ่งไล่ล่าจนหัวหกก้นขวิด

แรกๆเหมือนจะมาด้วยงานภาพถ่าย ตามมาติดๆด้วยงานวาด จำพวกงาน illustration งาน element ต่างๆนานา  ไปต่องาน pattern design, งาน icon งาน font, งาน typography ,งาน 3D ก้อต้องรู้ไว้.  นี่ยังจะต้องไปต่อด้วยงานวิดีโอ.  งาน animation งาน NFT ซึ่งไม่ไหวแล้วละ55555

ขอไม่เอางาน NFT ละกันค่ะ.  ปวดหัวกับเรื่องคริบโตและความเสี่ยงสูงเกินไป

มาเอางาน painting ดีกว่า. พวก abstract กับ mixed media นี่ทำแล้วไม่เครียด

ตอนนี้มารับงานดูแล brand ร้านเสื้อผ้าเด็ก online  เป็น content creator เต็มตัว. ยิ่งทำให้เวลาที่จะทำ project ส่วนตัวมันน้อยลง

ต้องมาเรียนรู้เพิ่มเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์. ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้เขียนค่ะ.  

วันๆต้องคิดหา content ทำภาพประกอบการสื่อสารโปรโมชั่น กับ แบรนด์ และต้องเรียนรู้เกี่ยวกับ platform ที่เราขาย. ทำโปรโมชั่น แคมเปญต่างๆ. โอ๊ยยยย หัวจะปวดแย่ละค่ะ

ก้อไม่รู้ว่าถ้าชีวิตเปรียบเปรยได้ดั่งบัวสี่เหล่า5555. ซึ่งมันไม่เกี่ยวกัน.  เพราะเรื่องบัวสี่เหล่านี่เค้าไว้เปรียบเปรยเกี่ยวกับเรื่องสติปัญญา. ชีวิตเราจะหลุดพ้นจากบัวใต้ต่อมตมหรือยัง(วะ)

เรียกได้ว่ายังไม่พ้นเท่าไหร่ละกันนะคะ. คือมันผลุบๆโผล่ๆ.  เพราะยังเป็นหลักยึดอะไรให้ตัวเองไม่ได้เท่าไหร่ค่ะ

สรุปว่าเหนื่อยและไม่เคยได้หยุดพัก

สองสามวันมานี้ร่างกายชักจะรวนๆ. ปวดตา และนอนไม่ค่อยหลับ

ฟังพระเทศนาเท่าไหร่ก้อไม่สงบ5555. พยายามอยู่กับปัจจุบัน. แต่อนาคตมันช่างน่ากลัวจังค่ะ


ขอบคุณที่ยังมาติดตามกันอยู่นะคะ..ไว้มาบ่นต่อค่ะ



มกราคม 04, 2566

สิ่งที่ยากที่สุด

 


ความฝันอันสูงสุดในโลกแห่งการวาดรูปของผู้เขียนอย่างหนึ่งคืองาน digital paint นี่หละค่ะ

ความที่ว่าผู้เขียนเติบโตมาในยุค analog เต็มตัว แถมยังต้องฝึกฝนการวาดรูปด้วยตัวเองมาตลอด เพราะไม่มีโอกาสได้เรียนในสิ่งที่ชอบ. มันจึงเป็นความฝันอันห่างไกล ว่าทำอย่างไรเราจึงจะวาดรูปสวยๆได้อย่างชาวบ้านเค้า

ยิ่งเห็นในโลกออนไลน์สารพัดที่จะมีรูปสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นงานสไตล์การ์ตูน หรือ manga หรือ manwha มีคนวาดรูปสวยๆอยู่เต็มไปหมด. เห็นแล้วเคลิ้ม

ไปทำอย่างอื่นมาซะตั้งเยอะ. เพราะต้องทำมาหากิน. จดๆจ้องๆว่าจะลงมือวาดด้วย ipad ก่อนเลย. ก้อไม่ได้ลงมือซะที

จริงๆก้อวาดไปบ้างล่ะค่ะ. แต่ไม่ค่อยได้อย่างใจเลย. และหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

เรื่องจะไปลงเรียนคอร์สก้อรู้สึกว่าควรไปเรียนเกี่ยวกับการทำมาหากินก่อนจะดีไหม5555

ซื้อพวก brush เพื่อจะใช้กับ Procreate มาจนเต็มเครื่องไปหมด. สุดท้ายก้อวาดไม่เสร็จบ้าง.  พอวาดค้างไว้คราวนี้ก้อลืมอีก.  พอกลับมาวาดต่อก้อต่อไม่ติดจนไม่ได้ความรู้ซักที

สองสามวันมานี้เลยจัดหนัก

ต้องทำให้ได้....วาดไปสามรูป.  

เออนะ.   รูปแรกมันก้อไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่.   

รูปสองมันชักจะดีขึ้นมาหน่อย

รูปที่สามร้องว๊าววววว   5555 ทำได้ซะที

จึงถือโอกาสมา post โชว์ให้ชาวโลกได้เห็นค่ะ5555

สรุปว่ายากที่สุด คือ ลงมือทำเนี่ยล่ะ

555


🎁 อ่านเพิ่มหากคุณสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ :