ธันวาคม 11, 2567

เมื่ออยากจะมี webtoon ฝากไว้ในโลกสักเล่ม


 

ที่จริงความคิดว่าอยากจะมี webtoon ฝากไว้ในโลกสักเล่มนั้นมีมานานแล้วค่ะ  จากความที่ว่าเป็นคนชอบวาดรูปมาเป็นพื้นฐาน  ซึ่งการชอบวาดรูปนั้นเป็นพื้นฐานของทุกสิ่งในขณะนี้...

จากแค่การวาดรูป นำพาชีวิตให้มีจินตนาการต่างๆนานา แม้จะไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับการวาดรูปเลย  เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆมาตลอดยี่สิบกว่าปี  ตอนนี้เป็นอิสระแล้วก็ยังไม่ได้วาดรูปแบบจริงจังเลยค่ะ

อ้าว...

รูปข้างบนนั้นเป็นงานวาดเก่าเก็บที่วาดเอาไว้ตอนเป็นเด็ก เรื่องลาก่อนรักเอย เป็นเล่มที่วาดไว้น่าจะประมาณเรียนชั้นประถมได้  อุตส่าห์เก็บไว้จนถึงวันนี้ กับอีกหลายเล่มที่เห็นซ้อนๆกันอยู่ในภาพ  เก็บไว้เพื่อจะเตือนตัวเองว่าฉันเป็นใคร... นี่หละคือหมุดหมายของชีวิต  ที่สักวันฉันจะต้องกลับไปหาให้จงได้  เพราะมันคือที่มาของความเป็นเรา

แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้วาดรูปเยอะเท่าตอนเป็นเด็กอยู่ดีค่ะ  เพราะต้องทำสิ่งที่หารายได้ก่อน  เดี๋ยวจะไม่มีกิน5555  ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทำก็ยังอยู่ใน area ของการวาดรูป หรืองานศิลปะอะไรทำนองนั้นอยู่ค่ะ เพียงแต่มีกรอบชัดว่าสิ่งที่วาดเป็นงานเชิงพาณิชย์  ไม่ได้วาดเพื่อความสบายใจเหมือนตอนเป็นเด็ก




ก้อมีงานเขียนนิยายที่ฉีกออกไปเล็กน้อย  เหมือนงานที่ทดลองทำอะไรใหม่ๆ ที่จริงก็จริงจังกับการเขียนนิยายไม่แพ้การวาดรูปนะคะ  พอเขียนเรื่องแรกใช้เวลาไป 10 เดือน กับยาแก้ปวดและความโทรมของร่าง5555 และสุดท้ายเหมือนไม่ค่อยจะมีอะไรดีกับชีวิตขึ้นมาสักเท่าไหร่ก็ยังอุตส่าห์จะมีเรื่องที่สอง.... ดูแนวโน้มแล้วการเขียนนิยายนี่อาศัยใจรักจะเขียนอย่างเดียวจริงๆ ทั้งที่ไม่ได้อะไรเท่าไหร่อย่างที่หวังค่ะ ตอนนี้เลยหยุด up นิยายมาได้ครึ่งเดือนแล้ว

เพราะเหนื่อย  จนคิดว่าอาจจะพอแค่สองเรื่อง ไม่เขียนต่อแล้ว หรือไม่เรื่องที่สามก็จะไม่ post สดให้นักอ่านรออ่านแล้ว  มันกดดันมากค่ะ  อาจจะไปเขียนให้จบก่อนแล้วลงทีเดียวก็เป็นได้

ที่แน่ๆต้องเขียนเรื่องที่สองให้จบ5555  เดี๋ยว Profile จะเสียได้


งาน webtoon หรือวาดการ์ตูนเป็น story ที่เล่าด้วยภาพ เป็นการรวมกันของงานนิยายกับการวาดรูปค่ะ  ที่จริงก้อได้ทำมาแล้วตั้งแต่เด็กน่ะแหละ ตามรูปที่โชว์ข้างบน

ความแตกต่างคือเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้การวาดง่ายขึ้น 

รู้สึกว่าต้องฝึกฝนอีกเยอะเลยค่ะ  ไม่กล้าโชว์งานของตัวเองเลย เวลาเห็นเด็กๆรุ่นใหม่ (รู่นลูก รุ่นหลาน) เค้าวาดออกมาสวยเป๊ะ 5555

เริ่มเข้าใจคำว่า สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ มากขึ้นค่ะ  ซึ่งเราอาจจะมีก็ได้นิ อิอิอิ

วันนี้รู้สึกเขียนไม่ค่อยออกค่ะ  เพราะฤทธิ์ยาลดน้ำมูก แก้แพ้อากาศที่กินเข้าไป  หัวมึนไปหมด  นี่หละพออากาศเย็นลงก็จะเป็นแบบนี้ทุกปี  แม้แต่นิ้วที่กดบนแป้นคีย์บอร์ดก็ตกร่องบ่อยมาก ทำให้พิมพ์สะดุด  ออกอาการร่างกายไม่พร้อมเท่าไหร่

ฝากติดตามกันต่อไปนะคะ 

วันนี้ขอจบตรงนี้ก่อน.




ธันวาคม 04, 2567

Free Printable ตาราง Tracker 2568

 







ปีนี้ถือว่าทำตามสัญญาที่ได้ให้กับตัวเองสำเร็จ  ว่าจะอัพโหลดตาราง tracker ปี 2568 ให้กับทุกคนได้เอาไปใช้กันก่อนปี 2568 จะมาถึงค่ะ

เอาเป็นว่าขอบคุณที่ติดตามอ่านและขอบคุณที่หลงมาอ่านเข้าพอดี 5555

ดาวน์โหลดเลยค่าาาา เป็น   PDF file นะคะ

ไฟล์แรกกระดาษขนาด Letter US เผื่อว่าคนไทยในต่างประเทศจะอยากใช้คะ



ไฟล์ที่สองสำหรับ print บนกระดาษขนาด A4 ค่ะ




พฤศจิกายน 20, 2567

เพื่อนสนิทที่จะอยู่เคียงข้าง(อีก)หนึ่งคน

 



ตื่นเช้ามาวันนี้ได้รับรู้ถึงอากาศที่เย็นลงจนพอจะใช้คำว่า "หนาว" ได้อยู่เหมือนกันค่ะ

ที่จริงมันก็เป็นช่วงเวลาที่คนเมืองกรุงรอคอยกันมาตลอดทั้งปี ว่าปีนี้จะหนาวไหม จะหนาวเมื่อไหร่ หรือหนาวอยู่กี่วัน

เดี๋ยวนี้อากาศหนาวนี่ต้องนับหน่วยกันเป็นวันเลยทีเดียวค่ะ  คงอดจะเล่าไม่ได้ว่าสมัยผู้เขียนยังเด็ก ซึ่งก็ต้องถอยหลังไปเยอะๆหน่อยนะคะ  ประมาณ 40 ปีที่แล้วก็พอ 5555 ว่าหน้าหนาวนี่หนาวกันเป็นเดือนๆ ค่ะ หน้าร้อนก็ไม่ร้อนจนสุกเกรียมขนาดนี้  ไม่คิดเลยว่ากระทั่งฤดูกาลก็ยังต้องผันแปรและเปลี่ยนแปลงไป  ตอนยังเด็กๆยังคิดอยู่ว่า  จะอย่างไรชีวิตเราก็ต้องเจอกับฤดูกาลวนเวียนแบบนี้ไปจนกว่าจะตาย

ตอนนี้อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดซะแล้วสิ...แม้แต่ฤดูกาลยังรวนเร  และเพี้ยนไปได้ขนาดนี้เลยค่ะ

อีกหน่อยหน้าหนาวของประเทศไทยอาจจะหายไป...ผู้เขียนคิดอย่างนี้จริงๆค่ะ

ที่เคยคิดตลกๆว่าอาจจะมีหิมะนั้นก็คงจะไกลเกินจริง  เพราะจากสภาพทางภูมิศาสตร์แล้ว ท่านนักอุตุนิยมวิทยาบอกว่าน่าจะยากเพราะตำแหน่งที่ตั้งของประเทศตามพิกัดที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร มันยากที่หิมะจะตก   แต่ไหงประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามอากาศยังเพี้ยนจนมีหิมะตกได้เหมือนกัน

อันนั้นเขาอาจจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจค่ะ  อันนี้ผู้เขียนเริ่มจะแถ...5555

พาออกนอกเรื่องไปตามเคยนะคะ วันนี้อยากจะมาแนะนำเพื่อนสนิทให้รู้จัก เพื่อนสนิทที่ว่านั้นดันไม่ใช่คนซะอีก อ้าว...

เรียกเป็นเพื่อนสนิทเพราะสิ่งนี้อยู่คู่กับผู้เขียนมาตั้งแต่จำความได้  ไม่ได้ต่างอะไรไปจาก "การวาดภาพ" และ "การเขียนนิยาย" เลยค่ะ  สิ่งนั้นก็คือ "ดนตรี" 

อย่าคิดเชียวว่าผู้เขียนจะลุกขึ้นมาเป็นศิลปินนักร้องเอาตอนอายุปูนนี้เลยค่ะ  คงไม่เอาแล้ว5555 แต่ว่าทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดนตรีที่ถูกจริตนี่มันเหมือนวิญญานถูกปลุกยังไงบอกไม่ถูก... ไม่ใช่แค่คำว่ารักดนตรี  หรือรักศิลปะ รักการเขียนนิยาย รักวาดรูป ....บลาๆๆ แบบที่คนชอบพูดกัน  

สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่งานอดิเรก แต่เรียกได้ว่าคือวิถีชีวิตจริงๆของผู้เขียนเลยต่างหาก คือตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วมันต้องทำ  อยากทำ โดยไม่มีเหตุผลรองรับ และสามารถทำได้ทั้งวัน หรือตลอดชีวิต หรืออาจจะมีชีวิตอยู่เพื่อได้ทำสิ่งเหล่านี้เลยค่ะ 

ไม่รู้ว่าฟลุ๊ค หรือบังเอิญ หรืออะไรดี  ผู้เขียนลองเขียนเพลงแบบที่ตัวเองอยากเขียนขึ้นมา แล้วดันมียอดขายขึ้นมาด้วย  คราวนี้เลยสงสัยในตัวเองขึ้นมาว่า...ฉันทำได้จริงๆเหรอเนี่ย

งานนี้ก็ต้องสานต่อกันไปอีกเหมือนทุกงานที่ทำอยู่ค่ะ  เริ่มจาก ฉันทะ แล้วก็ไปวิริยะ  ไปจิตตะ วิมังสา...

เลิกตั้งเป้าอะไรให้ปวดหัวกับชีวิตแล้วล่ะค่ะ  คิดแล้วก็ลงมือทำ ทำไปเรื่อยๆ ทุกอย่างจะดีชึ้นเอง  เหมือนอย่างการเริ่มต้นเป็นกราฟฟิกดีไซน์ในวัยขนาดนี้นี่หละ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมาก และเกิดกับตัวเอง

แรกๆมันเหนื่อยมาก ยากไปหมด มีแต่คำถาม ว่าไอ้นั่นอะไร ไอ้นี่อะไร เดี๋ยวนี้ชิลสุดๆค่ะ บูรณาการทุกอย่างได้เองแล้ว  กระโดดพลิกตีลังกาสามตลบแล้วกลับมายืนได้  ไม่ล้ม5555   มีปัญญาประดิษฐ์มาเราก็ไม่กลัวค่ะ  (ที่จริงจะไปกลัวทำไม  เค้าสร้างขึ้นมาให้มาคอยช่วยมนุษย์ค่ะ)

แต่สำหรับงานเขียนนิยาย ก็ยังยากอยู่นะคะ...ทว่าเรื่องที่สองที่กำลังเขียนอยู่นี่ก็รู้ฝึกว่าไม่ฝืด....ดดเท่าเรื่องแรก  เหมือนว่าได้เรียนรู้อะไรไปบางอย่างจากการเขียนเรื่องแรก

คงอยากจะบอกทุกคนที่บังเอิญมาผ่านพบ blog อันนี้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพวกคุณ  มองหาสัญชาตญานของตัวเองนะคะ  และอย่าข้ามผ่านมันไป  มองไปข้างหน้าเท่านั้น เวลาในชีวิตไม่ได้เหลือเยอะ เพราะไม่มีใครรู้ถึงวันสุดท้ายค่ะ  ใช้มันในแบบที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน รวมทั้งอย่าสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองด้วยการกดขี่ตัวเอง  เลิกค่ะ  เลิกประเมินตัวเองเหมือนกำลังเป็นพนักงานที่มีหัวหน้าคอยควบคุม

เป้าหมายมีไว้เป็นหลักชัยค่ะ  เดินทุกวันมันต้องถึงสักวันค่ะ  แต่ระหว่างทางมันสำคัญกว่าไหม...ตอนถึงเป้าหมายก็อาจจะสุขแค่แป็บเดียว  ว่าฉันถึงแล้ว...แต่ "ระหว่างทาง" นี่หละ ของจริงค่ะ...เชื่อผู้เขียนสิ



ขอบคุณที่ติดตามค่ะ






พฤศจิกายน 06, 2567

ฉันเป็นนักขายฝัน

 


เวลาใครๆถามว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ ผู้เขียนก็ไม่ค่อยอยากจะตอบเท่าไหร่หรอกค่ะว่าเขียนนิยายอยู่

เพราะสำหรับคนในวัยเดียวกับผู้เขียนนั้น อาชีพนี้เป็นเรื่องที่ใครก็รู้กันว่าเข้าข่ายไม่ค่อยทำเงินเท่าไหร่

แม้ว่าในยุคนี้จะมีนักเขียนรุ่นใหม่ๆจำนวนมากที่นิยายได้ทำเป็นละคร เป็นภาพยนตร์ ฉายใน streaming app หลายเรื่องไปหมด  คาดว่าจะร่ำรวยกันทั่วหน้า แต่ตัวเลขรายได้ผู้เขียนเองก็ไม่ทราบแน่ชัดหรอกค่ะ ว่าเขาได้กันอย่างไร หรือเท่าไหร่

เรื่องเงินๆทองๆนี่ในสังคมไทยก็ค่อนข้างถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ค่อยจะกล้าถามหรือบอกกันตรงๆหรอกค่ะ

เอาเป็นว่าผู้เขียนเองคนหนึ่งก็แอบมีฝันว่าอยากให้นิยายของตัวเองได้ไปทำเป็นละครอยู่เหมือนกัน

ทีนี้ก็ขอทำภาพประกอบนิยายตัวเองในรูปแบบเสมือนประหนึ่งว่าเกิดเป็นละคร หรือ series ขึ้นมาจริงๆล่ะค่ะ ฮ่าาาาาา

ทำเสร็จแล้วก็อมยิ้ม มีความสุข อิอิ ความสุขเล็กๆน้อยๆนะคะ

นักเขียนนิยายก็คงจะเป็นอาชีพขายฝันดีๆนี่เองแหละค่ะ  ที่ยังทนเขียนอยู่ได้โดยที่ดูๆแล้วต้องต่อสู้กับตัวเองและต้องเรียนรู้ไปอีกเรื่อยๆ นั้นก็เป็นเพราะคงใจรัก

ใจรักที่คล้ายๆกับการสร้างงานศิลป์ หรือวาดรูป คือสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ จากประสบการณ์ เอามารวมๆกันเป็นเรื่องราว พอจบหนึ่งเรื่องก็ยังอยากจะลองเรื่องแบบอื่นๆต่อไปอีกค่ะ

เรื่องว่าจะได้อะไร หรือผลตอบรับอะไร  ที่จริงมันก็อยากจะได้ แต่ว่าพอไม่ได้ก็อาจจะมีท้อบ้าง มีหยุดพักไปสักหน่อย สุดท้ายความอยากจะสร้างผลงานก็กลับมารบกวนจิตใจอีกแล้ว  ฮ่าาาาา

พอได้ไปสร้างโปสเตอร์นิยายของตัวเองขึ้นมา ดูแล้วก็เกิดแรงบันดาลใจค่ะ  ภาพในหัวมันชัดขึ้นอย่างประหลาดเลย ว่าเหตุการณ์หรือตัวละครจะดำเนินบทบาทต่อไปอย่างไร

มันเหมือนจินตนาการของเรามันชัดขึ้นมา จากมวลอากาศเป็นภาพเสมือนเรื่องจริง มีคนจริงๆ ตามที่เราเขียนได้ด้วย  หน้าตาหรือคาแรกเตอร์ก็ประมาณนี้แหละค่ะ  คล้ายๆ ใกล้เคียง ก็ยังดี

ตอนนี้ก็เข้าสู่ตอนที่ยี่สิบกว่าแล้วค่ะ...ยังอีกยาวไกล กว่าจะจบ คาดว่าประมาณ 70 กว่าตอน  ซึ่งก็งงกับตัวเอง เพราะว่าตั้งใจว่าจะเขียนให้สั้นลง  เขียนไปเขียนมาก็ยาวเท่าเดิม

ก็ขอฝากผลงานเรื่องที่สองเอาไว้ให้นักอ่านได้อ่านกันนะคะ 


ขอบคุณค่าาาา


เธอคือพันธนาการรัก ขอสลักไว้แนบใจ

อ่านบนมือถือ ใน ReadAWrite : https://www.readawrite.com/.../3fee2a0c76adb67b63a9cdaac0... 
อ่านบนมือถือ ใน Dek-D : https://writer.dek-d.com/Pakk.../story/view.php%3Fid=2575342