ตุลาคม 30, 2568

นิยายของคนถูกห้ามอ่านนิยาย

 


ลมหนาวอย่างเป็นทางการยังไม่เห็นมาเยือนเสียที  แต่แค่อากาศราวๆนี้ก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีมู้ดในการทำงานมากขึ้นค่ะ เพราะว่าไม่ร้อนจนเหงื่อซึมเหมือนช่วงก่อน แถมก็ไม่มีฝนตกดังโครมครามจนกลัวหลังคาบ้านจะพังอีกด้วย เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแห่งปีเลยก็ว่าได้

ผู้เขียนมองออกไปนอกประตูบ้าน เห็นอากาศอึมครึมมาก นี่ถ้าเป็นการย้อมสีภาพถ่ายละก็  คงจะถูกย้อมให้ดำเหมือนกับไม่มีแดด หรือว่าเป็นตอนใกล้ค่ำไปเลยทีเดียว

ชีวิตของคนทำงานที่บ้านก็เลยมีเวลานั่งสังเกตแสงและลมค่ะ5555 เมื่อวันก่อนฝนตกหนักเหมือนสั่งลา ผู้เขียนยังไปยืนดูฝนที่กำลังเทโครมคราม แถมเอามือไปรองน้ำฝนที่กำลังไหลลงมาตามต้นมะนาวที่บ้าน สัมผัสกับความเย็นของน้ำ นี่มันคือโลกแห่งความเป็นจริง ธรรมชาติก็มีความงามในแบบของเค้าแหละค่ะ

รูปประกอบ blog ประจำ post นี้ก็ถ่ายที่บ้านผู้เขียน เห็นไหมว่าที่บ้านมีต้นไม้ใหญ่ ก็ฝีมือคุณพ่อคุณแม่สร้างไว้ให้ ตัวผู้เขียนมือไม่เคยจับดิน ไม่เคยปลูกต้นไม้  ถูกเลี้ยงมาแบบเด็กเมือง เรียนหนังสืออย่างเดียวพอ...

ระหว่างเรียนหนังสือก็จะถูกตีกรอบมากหน่อย ห้ามนั่น โน่น นี่ อาจจะประสาเป็นเด็กผู้หญิงล่ะค่ะ  ครอบครัวก็ต้องคอยระแวดระวังทุกอย่างให้  แถมเป็นลูกทหารด้วย5555 

สมัยก่อนภัยสังคมก็แตกต่างไปจากสมัยนี้...

คือถ้าเดินออกนอกบ้านเมื่อไหร่ก็ต้องระวังค่ะ  แต่สมัยนี้มาถึงตัว เข้าทางโทรศัพท์ถือได้ซะอีก

เรื่องการหลอกลวงมีมากมายหลายรูปแบบจนเราไม่อาจวิ่งหนี  มีแต่ต้องเรียนรู้ที่จะต้องรับมือนะคะ  สมัยผู้เขียนยังเด็ก โตมาในกรมทหาร  เรียกได้ว่าลืมล๊อคกุญแจบ้านก็ไม่ต้องกลัวโจรมาปล้นนะคะ  เพราะในกรมทหารก็ปลอดภัยมากกว่านอกกรมทหารแน่นอน  

ยังจำได้ว่าทุกวันเวลาเดินเข้าประตูกรมทหารจะชินตากับเห็นทหารยืนหน้าป้อมประตูค่ะ  ถ้าเป็นช่วงมีเหตุการณ์ทางการเมืองก็จะเห็นทหารหน้าประตูใส่ชุดลายพราง สะพายปืนเอ็มสิบหกเต็มยศ แถมทาหน้าเป็นสีดำๆอีกต่างหาก  ผู้เขียนชินแล้วค่ะ  ไม่ได้กลัวอะไร ก็โตมากับสิ่งเหล่านี้

ฟิลลิ่งแบบนี้เลยอยู่ในนิยาย ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว  และว่าจะเขียนเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับทหารอีกค่ะ 

นอกจากจะเจอทหารเวลาจะเข้าบ้าน เพราะบ้านอยู่ในเขตทหาร  ก็จะต้องมาเจอทหารที่บ้านอีกค่ะ555 คือคุณพ่อนั่นเอง

คุณพ่อนี่ละ เป็นคนห้ามผู้เขียนอ่านนิยาย

สงสัยว่านิยายที่คุณพ่อเคยอ่าน อาจจะมีเนื้อหาไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน  ทำเอาผู้เขียนมีหลอนๆทุกครั้งเวลาจะอ่านนิยาย กว่าอารมณ์หลอนนี้จะหายก็นานมากค่ะ เรียกได้ว่าโตจนแก่แล้วก็มีอารมณ์หลอนๆอยู่เลยนะคะ

แล้วโชคชะตาก็พัดพา  คนไม่ค่อยได้อ่านนิยาย กลับมีนิยายในหัว...เขียนนิยายอ่านเล่นๆ เขียนการ์ตูนเล่าเป็นเรื่องๆ แล้วก็ต้องมามีอาชีพเขียนนิยายตอนเกษียณไปแล้วซะด้วยสิคะ

นี่เรียกว่าคงจะ born to be 

ตอนผู้เขียนหยิบเอา ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว** ฉบับพิมพ์เล่มไปโชว์ให้คุณพ่อดู   ท่านทำหน้าภูมิใจ บอกว่าลูกเขียนได้เป็นเล่มหนาขนาดนี้เลยเหรอ  พ่อตาไม่ดีแล้ว คงจะอ่านไม่ไหว ...ว่าแต่อยากทำอะไรก็ทำเลยนะลูก

และนี่ละค่ะ

คือสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกดีทุกครั้งที่ upload นิยายตอนใหม่ เรื่องใหม่ อยู่ต่อไป แม้ว่าบางเรื่อง บางตอน บาง platform ก็มีคนอ่าน มากบ้าง-น้อยบ้าง ก็ยังรู้สึกว่าพอจะไปได้อยู่ค่ะ

หวังว่าสักวัน การเขียนนิยาย จะทำให้ผู้เขียนพอจะอยู่ได้...กับชีวิตที่เกษียณก่อนกำหนด


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ


หมายเหตุ : ตอนนี้ฉบับพิมพ์เล่มใกล้คลอดแล้วค่ะ  ยังตรวจคำผิดไม่เสร็จเสียที ติดพันภารกิจมากมาย รบกวนอุดหนุน ฉบับ ebook ไปก่อนนะคะ อิอิ ใครอยากได้ฉบับเล่มจริงรบกวนรอต่อไปอีกนิดค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น