ลมหนาวอย่างเป็นทางการยังไม่เห็นมาเยือนเสียที แต่แค่อากาศราวๆนี้ก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีมู้ดในการทำงานมากขึ้นค่ะ เพราะว่าไม่ร้อนจนเหงื่อซึมเหมือนช่วงก่อน แถมก็ไม่มีฝนตกดังโครมครามจนกลัวหลังคาบ้านจะพังอีกด้วย เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแห่งปีเลยก็ว่าได้
ผู้เขียนมองออกไปนอกประตูบ้าน เห็นอากาศอึมครึมมาก นี่ถ้าเป็นการย้อมสีภาพถ่ายละก็ คงจะถูกย้อมให้ดำเหมือนกับไม่มีแดด หรือว่าเป็นตอนใกล้ค่ำไปเลยทีเดียว
ชีวิตของคนทำงานที่บ้านก็เลยมีเวลานั่งสังเกตแสงและลมค่ะ5555 เมื่อวันก่อนฝนตกหนักเหมือนสั่งลา ผู้เขียนยังไปยืนดูฝนที่กำลังเทโครมคราม แถมเอามือไปรองน้ำฝนที่กำลังไหลลงมาตามต้นมะนาวที่บ้าน สัมผัสกับความเย็นของน้ำ นี่มันคือโลกแห่งความเป็นจริง ธรรมชาติก็มีความงามในแบบของเค้าแหละค่ะ
รูปประกอบ blog ประจำ post นี้ก็ถ่ายที่บ้านผู้เขียน เห็นไหมว่าที่บ้านมีต้นไม้ใหญ่ ก็ฝีมือคุณพ่อคุณแม่สร้างไว้ให้ ตัวผู้เขียนมือไม่เคยจับดิน ไม่เคยปลูกต้นไม้ ถูกเลี้ยงมาแบบเด็กเมือง เรียนหนังสืออย่างเดียวพอ...
ระหว่างเรียนหนังสือก็จะถูกตีกรอบมากหน่อย ห้ามนั่น โน่น นี่ อาจจะประสาเป็นเด็กผู้หญิงล่ะค่ะ ครอบครัวก็ต้องคอยระแวดระวังทุกอย่างให้ แถมเป็นลูกทหารด้วย5555
สมัยก่อนภัยสังคมก็แตกต่างไปจากสมัยนี้...
คือถ้าเดินออกนอกบ้านเมื่อไหร่ก็ต้องระวังค่ะ แต่สมัยนี้มาถึงตัว เข้าทางโทรศัพท์ถือได้ซะอีก
เรื่องการหลอกลวงมีมากมายหลายรูปแบบจนเราไม่อาจวิ่งหนี มีแต่ต้องเรียนรู้ที่จะต้องรับมือนะคะ สมัยผู้เขียนยังเด็ก โตมาในกรมทหาร เรียกได้ว่าลืมล๊อคกุญแจบ้านก็ไม่ต้องกลัวโจรมาปล้นนะคะ เพราะในกรมทหารก็ปลอดภัยมากกว่านอกกรมทหารแน่นอน
ยังจำได้ว่าทุกวันเวลาเดินเข้าประตูกรมทหารจะชินตากับเห็นทหารยืนหน้าป้อมประตูค่ะ ถ้าเป็นช่วงมีเหตุการณ์ทางการเมืองก็จะเห็นทหารหน้าประตูใส่ชุดลายพราง สะพายปืนเอ็มสิบหกเต็มยศ แถมทาหน้าเป็นสีดำๆอีกต่างหาก ผู้เขียนชินแล้วค่ะ ไม่ได้กลัวอะไร ก็โตมากับสิ่งเหล่านี้
ฟิลลิ่งแบบนี้เลยอยู่ในนิยาย ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว และว่าจะเขียนเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับทหารอีกค่ะ
นอกจากจะเจอทหารเวลาจะเข้าบ้าน เพราะบ้านอยู่ในเขตทหาร ก็จะต้องมาเจอทหารที่บ้านอีกค่ะ555 คือคุณพ่อนั่นเอง
คุณพ่อนี่ละ เป็นคนห้ามผู้เขียนอ่านนิยาย
สงสัยว่านิยายที่คุณพ่อเคยอ่าน อาจจะมีเนื้อหาไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน ทำเอาผู้เขียนมีหลอนๆทุกครั้งเวลาจะอ่านนิยาย กว่าอารมณ์หลอนนี้จะหายก็นานมากค่ะ เรียกได้ว่าโตจนแก่แล้วก็มีอารมณ์หลอนๆอยู่เลยนะคะ
แล้วโชคชะตาก็พัดพา คนไม่ค่อยได้อ่านนิยาย กลับมีนิยายในหัว...เขียนนิยายอ่านเล่นๆ เขียนการ์ตูนเล่าเป็นเรื่องๆ แล้วก็ต้องมามีอาชีพเขียนนิยายตอนเกษียณไปแล้วซะด้วยสิคะ
นี่เรียกว่าคงจะ born to be
ตอนผู้เขียนหยิบเอา ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว** ฉบับพิมพ์เล่มไปโชว์ให้คุณพ่อดู ท่านทำหน้าภูมิใจ บอกว่าลูกเขียนได้เป็นเล่มหนาขนาดนี้เลยเหรอ พ่อตาไม่ดีแล้ว คงจะอ่านไม่ไหว ...ว่าแต่อยากทำอะไรก็ทำเลยนะลูก
และนี่ละค่ะ
คือสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกดีทุกครั้งที่ upload นิยายตอนใหม่ เรื่องใหม่ อยู่ต่อไป แม้ว่าบางเรื่อง บางตอน บาง platform ก็มีคนอ่าน มากบ้าง-น้อยบ้าง ก็ยังรู้สึกว่าพอจะไปได้อยู่ค่ะ
หวังว่าสักวัน การเขียนนิยาย จะทำให้ผู้เขียนพอจะอยู่ได้...กับชีวิตที่เกษียณก่อนกำหนด
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ
หมายเหตุ : ตอนนี้ฉบับพิมพ์เล่มใกล้คลอดแล้วค่ะ ยังตรวจคำผิดไม่เสร็จเสียที ติดพันภารกิจมากมาย รบกวนอุดหนุน ฉบับ ebook ไปก่อนนะคะ อิอิ ใครอยากได้ฉบับเล่มจริงรบกวนรอต่อไปอีกนิดค่ะ

 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น