มิถุนายน 12, 2567

หากว่านักเขียนต้องวาดปกนิยายของตัวเอง

 



เคยได้ยินมาจากที่ไหนซักแห่ง ซึ่งก็จำไม่ได้จริงๆค่ะว่าจากที่ไหน  ว่ากันว่าคนที่มีทักษะเกี่ยวกับศิลปะนั้นมีจำนวนเฉลี่ยเพียง 10% ของประชากรในโลกใบนี้

หากมาคิดต่อเล่นๆว่า แล้วคน 10% นั้นอยู่ที่ภูมิภาคไหนมากที่สุดล่ะคะ  คงไม่ใช่ประเทศไทยมั้ง 5555

เจ้าความสามารถทางศิลปะเนี่ยมันส่งต่อผ่านทางพันธุกรรมป่าวคะ สงสัยอีกละ 5555

สรุปว่าไม่รู้จะถามใคร และไม่มีคำตอบใน vlog นี้...

เอาเป็นว่ามีอยู่ตรงนี้หนึ่งคน คือ ผู้เขียนค่ะ ด้วยต้องตาต้องใจกับพวกรูปวาดสวยๆมาตั้งแต่เด็ก อย่างที่หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไม

สมัยเด็กๆก็ได้แค่ชื่นชมการ์ตูนญี่ปุ่น  อนิเมะต่างๆนานา ซึ่งยุคนั้นสามารถเสพย์ได้ผ่านทางกระดาษ  หมายถึงการพิมพ์เล่ม กับพวกรายการทีวีเท่านั้นค่ะ 

จำได้ว่าเคยดิ้นรนอยากได้ Artbook ของการ์ตูนเรื่อง คำสาปฟาโรห์  จนคุณพ่อต้องพานั่งรถเมล์ไปซื้อถึงสำนักพิมพ์  ด้วยว่าเราเป็นเด็ก มีความไม่สะดวกมากมายหากว่าจะสั่งซื้อแล้วให้จัดส่งทางไปรษณีย์  ความไม่สะดวกสมัยนั้นได้แก่ การจ่ายเงิน ซึ่งต้องซื้อธนานัติ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ (เป็นเด็กทำธุรกรรมไม่ได้) และที่อยู่ของผู้เขียนซึ่งอาศัยในค่ายทหาร  แปลว่าการได้รับจดหมายหรือพัสดุอะไรสักอย่างมันเป็นเรื่องยุ่งมาก  อารมณ์ประมาณว่าพัสดุของทุกคนในค่ายจะถูกนำมารวมกันไว้ที่เดียว  ไม่มีการนำส่งแยกเป็นบ้านๆ นะคะ  เฮ้อ...ช่างลำบากเนอะ

นั่นน่ะเป็นสภาพของ ปี พ.ศ. 2525-2530 ประมาณนั้น 

เล่าย้อนยาวไปขนาดนั้น...ตกลงอยากจะบอกว่าผู้เขียนพอจะวาดการ์ตูนได้อยู่ค่ะ ผนวกกับจินตนาการเยอะ เลยเขียนมันทั้งการ์ตูนเป็นเรื่องๆ และแต่งนิยายไปพร้อมๆกันได้ 

มาจนถึงวันนี้ที่เริ่มจะแก่ตัว ฮ่าาาาา ทุกวินาทีต้องแสวงหาทางรอดให้กับชีวิต  คือมีความสามารถอะไรก็งัดออกมาทำมาหากินค่ะ

ระหว่างที่เขียนนิยายของตัวเองไป ก็แอบส่องหาปกของนักวาดสวยๆไปด้วย  บ้างก็ซื้อไม่ทัน ส่วนคนที่ผู้เขียนเพิ่งจะทักไปคุยด้วยล่าสุดเป็นนักวาดในดวงใจ คือ งานสวยมากกกกกก 

คุยไปคุยมาเหมือนจะพอสู้ราคาไหว คิดราคาต่อ charactor เลยทีเดียว เช่น ปกมีภาพนางเอกกับพระเอก นับเป็น 2 คน แล้วขนาดหัวถึงเข่า ไม่รวมฉาก ประมาณสามพันกว่าบาท  ถ้ารวมฉากอีกก็ปาเข้าไปหกเจ็ดพัน พอเป็นลิขสิทธิ์แบบใช้เพื่อการพาณิชย์เท่านั้นแหละ...แม่เจ้า   นักวาดขอคูณ 2

พอได้ยินดังนั้นนักเขียนวัยเกษียณคนนี้ถึงกับจะเป็นลม....หลักหมื่นแล้วเนี่ย

สรุป...วาดเองเหอะ  ฝึกๆไปก่อน วันนี้ยังวาดไม่สวย  เดี๋ยววาดไปเรื่อยๆจะค่อยๆดีขึ้นแหละน่า

โอ๊ย ไหนจะวาดหน้า ทรงผม เสื้อผ้า  ฉาก โอ๊ย...ลงสีอีก  เครียดล่ะค่ะ  จะสวยพอใช้ได้ไม่รู้เมื่อไหร่

แต่ก็เอาเถอะค่ะ ที่จริงเป็นส่ิงที่ชอบอยู่แล้ว...การวาดรูปน่ะ




เอามาแปะโชว์ให้นักอ่านได้ชม  เผื่อติดตามกันไปนานๆ จะได้เห็นพัฒนาการฝีมือบ้าง  ไม่เชื่อนักอ่านไปดู post เก่าๆ ตอนช่วงผู้เขียนยังทำงานอยู่สิคะ  วาดแย่กว่าตอนนี้อยู่พอดูนะคะ


ไหนๆก็มาไกลโขแล้ว ต้องไปให้สุดทาง...ฮึบๆๆๆ สู้ๆ


มิถุนายน 05, 2567

ถึงจะบ่นว่าเหนื่อย แต่ก็ยังจะต้องทำต่อไป

 


วันนี้นิยายเรื่องแรกที่ใส่พลังเข้าไปแบบเต็มพิกัด ก้าวเข้าสู่การเผยตัวออนไลน์บนแพลตฟอร์ม top 5 ของประเทศไทย และใกล้เขียนถึงบทสุดท้ายเข้าไปทุกที... เกือบจะจบเรื่องแล้วจ้า

แหมเกริ่นนำเสียสวยหรูยิ่งใหญ่ขนาดนี้  top 5 ที่ว่าก็หนีไม่พ้น เด็กดีดอทคอม กับ รี้ดอะไรท์ นั่นแหละค่ะ

อย่าถามว่าผ่านไปเกือบสิบเดือน ยอดวิว ยอดรายได้เป็นไง

😓ก็อย่าไปเอาอะไรมากกับเรื่องแรก  ชาวบ้านเค้าเขียนกันมาก่อนเราเป็นสิบๆเรื่องก็ไม่ได้โด่งดังในชั่วข้ามคืน  อันนี้ก็ปลอบใจตัวเองตามเคยค่ะ

นิยายรักชายหญิงพล็อตเรื่องแบบ everyday life บางคนเรียก slice of a life คือไปเรื่อยๆสายชิล จะไปสู้นิยายรักผู้ใหญ่ 18+ หรือนิยายจีนโบราณ  มันเป็นไปไม่ได้

ทุกวันนี้ผู้เขียนทำหลายอย่างมาก หากใครติดตามอ่าน blog มาตลอดจะทราบค่ะ  5555

เหนื่อยก็ต้องหยุดค่ะ  วัยนี้มันไม่ใช่วัยสร้างฐานะ  เลยมาไกลมากแล้ว  ฝืนสังขารแล้วเกิดต้องเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลขึ้นมามันจะยุ่งและเดือดร้อนคนอื่นค่ะ

อนิจจา...รายได้จากงานสร้างสรรค์ทั้งปวง (ไม่เกี่ยวกับที่เรียนจบและทำงานมาเลยสักนิด) เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย  และเมื่อเทียบกับรายได้สุดท้ายก่อน early retire มันคือ 1:10:100 (รายได้:ค่าใช้จ่าย:รายได้ในอดีต)

ข่าวดีก็มีค่ะ

คือผลประกอบการช่วง 2-3 ปีแรก อัตราส่วนเป็นดังนี้  1:100:1,000  

ผ่านมา 6 ปี ดังนั้นอัตราการเติบโตของรายได้คือ 10 เท่า ใช้เวลาถึง 6 ปี อยากจะเขียนตัวโตๆๆๆๆๆๆ

ตัวอย่างเช่น ช่วง 2-3 ปีแรก มีรายได้ประมาณเดือนละ 10 บาท แต่ตอนนี้ได้ประมาณเฉลี่ยเดือนละ 100 บาท

ดูน่าดีใจใช่ป่าวคะ  ...ก็นั่นหละ ผู้เขียนพยายามจะมองแค่จุดนี้ คือจุดที่เราสบายใจ ไม่งั้นจะท้อมาก เพราะกว่าจะได้มาต้องทำหลายอย่างเลยค่ะ  ทั้งนี้ผู้เขียนมองเรื่องการสร้างกระแสรายได้ หรือ income stream ที่ต้องมีรายได้จากหลายทิศทางค่ะ  กระจายความเสี่ยง กระจายเจ๊งด้วยค่ะ ก็เหนื่อยหน่อย แต่เชื่อว่าจะมั่นคงค่ะ

อย่างที่เห็นว่าเป้าหมายคือรายได้ที่ควร cover ค่าใช้จ่าย ยังไม่เป็นไปตามเป้า ห่างไกลมากถึง 10 เท่า  ความฝันที่อยากจะกลับไปมีเงินเหลือเก็บออมบ้างก็ไม่ได้เลย

ไม่ต้องไปดูตัวหลังสุดคือ รายได้ในอดีต... คือ เหนื่อยค่ะ  อยากกลับไปมีชีวิตชิลๆ ได้กินได้เที่ยว ได้ shopping บ้างคงจะไม่ได้อยู่ดี  ยังไงก็ต้องผ่านด่านที่ว่าทำให้มีเงินเหลือออมจะดีกว่า  เพราะชีวิตไม่มีอะไรแน่ค่ะ ยังไงต้องแบ่งออมไว้ก่อนปลอดภัยที่สุด

บ่นเรื่องผลประกอบการให้ฟังเสียยาวยืด  หวังว่าคุณผู้อ่านจะได้ไอเดียกับการจัดการชีวิตวัยเกษียณไปบ้างนะคะ  5555 สาธุค่ะทุกคน

ว่าแล้วก็ต้องไม่ลืมขายของ อ้าว...ฮ่าาาาา


ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว บน ReadAWrite :

https://www.readawrite.com/a/d13147cea2381ce84bd0311b83558d6f


ปลายฟ้าไม่เคยไร้ดาว บน DekDee :

https://dekd.co/w/n/2518272


เขียนมาใกล้จบล่ะค่ะ  ทะยอยปิดปมต่างๆที่สร้างเอาไว้ แฮบปี้เอนดิ้งกันทุกคู่  แต่จะอย่างไรต้องไปติดตามอ่านกันนะคะ  ระหว่างนี้ขอแจ้งว่าจะมีการรวบรวมเป็น ebook แน่นอน  ส่วนจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มนั้นตัวผู้เขียนจะทำไว้อ่านเป็นที่ระลึก  คาดว่าจะสั่งพิมพ์เล่มมาไม่เยอะ ลองขายดูค่ะ5555 ดังนั้นพิมพ์จำนวนน้อย คงไม่ได้กำรี้กำไรอะไรมากมาย  ขายไม่หมด-เหลือก็บริจาคทำบุญให้ห้องสมุดประชาชนหรือไม่ก็ห้องสมุดพร้อมปัญญาสำหรับผู้ต้องขังค่ะ  รับรองว่าอ่านแล้วไม่มีพิษ ไม่มีภัย สายโลกสวยยย

เรื่องใหม่ถัดไปก็มีโครงเรื่องรออยู่เหมือนกันค่ะ ทว่า...ยังมีหลายจุดที่ไม่ลงตัว  คิดไม่ออก  แก้ไม่ตก  ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะได้เขียนเรื่องใหม่ในช่วงไหน 

ถึงจะบ่นว่าเหนื่อย และไม่ได้อะไรเท่าไหร่  แต่ก็ยังจะต้องทำต่อไปค่ะ 

เพราะน่าจะอยากทำ...นั่นแหละค่ะ ข้อสรุป



ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ