หลังจากวนเวียนดู Clip สอนวิธีการทำมัฟฟินอยู่หลายเที่ยวมากๆ เลยตัดสินใจว่าวันนี้จะต้องลองลงมือทำมั่งสักครั้งล่ะ
รู้สึกตัวเองกล้าหาญมาก ฮ่าาาา ดูใน clip นี่มันดูทำง่ายดายมาก แป้งก้อไม่ต้องร่อน เพราะเนื้อมัฟฟินไม่ต้องละเอียดเหมือนเนื้อเค้กก้อได้ เน้นผสมเร็ว แล้วเข้าเตาอบเลย ประมาณว่าเป็นอาหารแบบด่วนๆของฝรั่งเค้า แถมใช้เครื่องตีแบบมือถือ หรือถ้าใครแรงดีก้อใช้เพียงตะกร้อมือก้อใช้ได้เหมือนกัน ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์มากมายอะไร
เห็นมัฟฟินมักจะอยู่ในถ้วยกระดาษสวยน่ารัก แต่เห็นทีไรไม่รู้ทำไมชอบนึกถึงเค้กกล้วยหอมแบบไทยๆของเราทุกทีไป
ส่วนผสมของสูตรนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มีแป้งเค้ก ผงฟู เบคกิ้งโซดา วิปครีม โยเกิรต ไข่ เนย น้ำตาลทรายขาว กลิ่นวานิลา และบลูเบอร์รี่สดเท่านั้น
เจ้าบลูเบอร์รี่สดนี่แพงมากกล่องนิดเดียวราคาเกือบสองร้อยบาทแน่ะ
และสูตรตาม youtube นี่ก้อต้องทำใจเผื่อไว้ เนยนี่เนยจืดหรือเค็มก้อไม่บอก และไม่มีการใส่เกลือด้วย ฉันก้อเลือกใช้เนยจืดธรรมดาละกัน เพราะเห็นจากหลายๆสูตรชอบบอกว่าทำขนมอย่าใช้เนยเค็ม เพราะมันจะเค็มเกินไง
ตั้งท่าอุ่นเตาอบล่วงหน้า แต่ว่ากว่าจะชั่งตวงของต่างๆผสมกันและเริ่มตีด้วยเครื่องตีมือถือ เวลาก้อผ่านพ้นไปจนเตาอบได้อุณหภูมิ ฉันก้อยังตีส่วนผสมไม่เสร็จ สงสัยจะเปลืองไฟกันใหญ่ล่ะคราวนี้ เลยต้องหมุนปุ่มตั้งเวลาให้ยืดออกไปจนกว่าส่วนผสมทั้งหมดจะเข้ากันและเนียนพอดี
มือใหม่อย่างฉันพอจะมีประสบการณ์จากการลองผิด-ลองถูกมาพอสมควร ทว่าเคยมั่วๆทำเค้กกินเองหลายปีมาแล้ว มันก้อกินได้นะ คนกินยังบอกอร่อยเลย ตอนนั้นไม่มีอุปกรณ์อะไรเท่าไหร่ แถมสถานที่ก้อไม่สะดวกมากขึ้นเหมือนอย่างตอนนี้ ฉันยังอุตส่าห์เพียรทำจนได้เลย
เรื่องการดูว่าส่วนผสมเข้ากันเนียนหรือยังนี่ก้ออาศัยการสังเกตเอา ถ้าเอาพายยางปาดๆดูแล้วน้ำตาลทรายไม่เป็นเม็ด และสีของเนย ไข่ แป้ง ที่อยู่ในอ่างผสมสีกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนครีมข้นละก็ ฉันก็ว่าน่าจะใช้ได้แล้วนะ (เดาเอา)
งานหนักนี่ก้อเอาบลูเบอรี่ออกมาซับน้ำก่อนลงผสมกับแป้ง เพราะมีข้อควรระวังว่าน้ำที่ละลายจากการเอาบลูเบอร์รี่ออกมาจากตู้เย็นนั้นอาจจะซึมเข้าไปในมัฟฟิน และทำให้เนื้อมัฟฟินแฉะ เละ เสียโครงสร้างมัฟฟินได้ ฉ้นจึงต้องเอาทิชชูหนาๆมาคลึงบลูเบอร์รี่ก่อนใส่ลงไปในส่วนผสมซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย
เดี๋ยวอบออกมาก้อรู้เอง คิก ๆๆๆ
เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์สามส่วนสี่ เหลือขอบประมาณหนึ่งส่วนตามตำราเป๊ะๆๆๆๆๆ
ครบยี่สิบนาทีตามสุตรเอาออกมาจากเตาอบ เอาไม้แหลมจิ้มเพื่อเช็คว่าสุกหรือยัง ดูจากสีของมัฟฟอินแล้วรู้เลยว่าความร้อนในเตาอบไม่สม่ำเสมอแฮะ เห็นได้ว่าด้านในจะร้อนกว่าด้านติดกระจก มัฟฟินด้านในจึงสุกทั่ว แต่ด้านนอกมีไม่สุก ดูจากสีก้อรู้ สีของสองฝั่งไม่เหมือนกัน
พอชิมมัฟฟินอันแรก รู้สึกไม่อร่อยอย่างที่คาดหวัง ทำไมมันจืดๆเหมือนพวกเค้กรักสุขภาพ แบบหวานน้อยอะไรทำนองนั้น ซึ่งรสนิยมตัวเองจะชอบหวานมันกว่านี้
ลองเอาอันที่ดูแล้วเหมือนสุกไม่หมดอบต่อรอบ พอดีมีแป้งส่วนที่ผสมแล้วอีกสองถ้วยมัฟฟินที่เหลืออยู่ เลยลองไม่ใส่บลูเบอร์รรี่ แบบเอาเป็นเนื้อมัฟฟินล้วนๆ จะได้ชิมแป้งด้วยว่าเป็นอย่างไรนะสูตรนี้
ผ่านไปอีกยี่สิบนาที คราวนี้มัฟฟินที่โดนอบรอบสองหน้าเหลืองกรอบมาเลย ชอบนะแบบกรอบๆเนี่ย ไม่ได้กรอบแบบจะไหม้นะคะ กรอบนิดๆแบบกำลังดีเลย แต่ว่าอาจจะผิดหลักหน้าตาที่ถูกต้องของมัฟฟินเค้าหรือเปล่าไม่รู้สิ
ชอบอันที่ไม่ได้ใส่บลูเบอรี่มากๆเลยค่ะ เนื้อมัฟฟินนุ่มมากๆ ขาดแต่รสหอมหวานเค็มอะไรทำนองนี้ (ตามรสนิยมส่วนตัว)
และจะไม่ใส่บลูเบอร์รี่แล้วจ้าาาา ....
เอาเป็นอันว่าขอจบตอนเรื่องผจญภัยไปกับการทำอาหารละค่ะ ทำมัฟฟินก้อเหมือนได้กิน cup cake แทนมัฟฟิน แล้วมาพบกันใหม่ตอนหน้านะคะ อิ อิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น