มกราคม 28, 2565

How to make Banana Bread : ทำเค้กกล้วยหอมทานเอง

 

คราวที่แล้วเวิ่นเว้อไปหนึ่งตอนเรื่องอุปกรณ์และวัตถุดิบ. หนนี้เอาจริงละ. มาบอกเล่าวิธีทำซะที. ขอบคุณผู้อ่านที่อดทน. ฮ่าาา

ที่หายไปเพราะว่าต้องไปถ่ายรูปและทำภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายมากขึ้นนะคะ  งานนี้ต้องถ่ายภาพเองให้สมกับเป็นช่างภาพอาชีพ (งงกับชีวิตตัวเองเหมือนกันค่ะ.  5555) เรื่องรูปนี่เรื่องใหญ่มิใช่น้อยค่ะ. มามะ นั่งล้อมวงกันได้เลย

Step 1 :  มาเริ่มตรงที่เตรียมกล้วยหอมที่ค่อนข้างงอมๆหน่อย ผู้เขียนเคยเอาแบบงอมจนเปลือกเป็นสีดำเลยมาทำก้อไม่มีปัญหาค่ะ. เพียงแต่ว่าเวลาเก็บกล้วยหอมไว้ทำขนม ต้องแช่กล้วยหอมไว้ในตู้เย็นแบบแช่ช่องแข็งไว้ก่อนนะคะ พอจะเอามาใช้ก้อเอาออกมาทิ้งไว้ให้คลายความเย็นก่อนค่ะ. ถ้างอมมากถึงขั้นมีน้ำเยิ้มๆก้อบีบเอาน้ำออกบางส่วนก็จะดีค่ะ 

Step 2 :  หั่นกล้วยเป็นท่อนๆ เพื่อให้เวลาเราบี้ให้เละด้วยตะกร้อมือ จะได้เละง่ายๆและรวดเร็วมากขึ้นค่ะ ผู้เขียนเทน้ำตาลใส่ลงไปและเอาตะกร้อมือยีกล้วยไปพร้อมกันเลยทีเดียว. เห็นมั้ยคะว่าถ้าเราใช้ตะกร้อมือที่ขนาดใหญ่และซี่ทำจากพวกสแตนเลสจะดีกว่าพวกทำจากซิลิโคน.  ซี่ที่ทำจากสแตนเลสจะแข็งแรงกว่า  เวลาเรากวนส่วนผสมจะทำได้ถนัดเพราะไม่ต้องออกแรงเยอะ

Step 3 :  ให้กล้วยหอมผสมเข้ากันดีกับน้ำตาลทรายจนเนียนประมาณในภาพค่ะ.  กล้วยหอมจะยังเป็นเม็ดๆอยู่บ้างก้อไม่เป็นไรนะคะ. ขออย่างเดียวให้น้ำตาลละลายให้หมดเป็นพอ. สังเกตเวลาเอาตะกร้อมือลากๆจะไม่มีเสียงกรุบกริบของเม็ดน้ำตาลค่ะ

Step 4 :  ร่อนพวกของแห้ง เช่น แป้ง ผงฟู. เบคกิ้งโซดา ลงไปพร้อมกันเลยดีเดียวค่ะ ผสมแล้ววางทิ้งไว้เลยค่ะ

Step 5 :  อันนี้เป็นถ้วย butter milk ที่เราทำใช้เอง. คือนมสดใส่น้ำมะนาวนั่นเอง. ผสมแล้ววางทิ้งไว้เลยค่ะ

Step 6 :  กลับมาที่กะละมังกล้วยนะคะ. เอาน้ำมันใส่ลงไปตามที่สูตรบอก. น้ำมันจะแยกชั้นก้อไม่ต้องตกใจนะคะ

Step 7 :  เอาตะกร้อมือกวนๆไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำมันผสมเข้ากันดีกับกล้วยนะคะ. สาเหตุที่เรามาใส่น้ำมันทีหลังเพราะว่าต้องผสมกล้วยกับน้ำตาลก่อนเป็นอันดับแรก. ไม่งั้นถ้าเอาน้ำตาลมาใส่พร้อมน้ำมัน. น้ำตาลจะไม่ละลายไปกับกล้วยสิคะ. ยุ่งแน่. แก้ลำบากด้วย

Step 8 :  ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว. ใส่ส่วนที่เราร่อนแป้งเอาไว้ก่อนหน้านี้สลับกับใส่ butter milk โดยกะประมาณแบ่งแป้งประมาณ 3 ส่วน.   และแบ่ง butter milk 2 ส่วน. ใส่สลับกัน แป้งส่วนที่1+นมส่วนที่1+แป้งส่วนที่2+นมส่วนที่2+แป้งส่วนที่3 เอาตะกร้อมือกวนผสมแป้งให้เข้ากันกับกล้วย ก่อนจะใส่นมต่อไปทุกครั้งด้วยนะคะ


เสร็จแล้วก้อเทใส่พิมพ์ฟอยด์. เอาเข้าเตาอบ รอรับประทานเค้กกล้วยหอมอุ่นๆ ได้เลยค่ะ




มกราคม 05, 2565

Banana cake เป็นของหวานหรืออาหารเช้าก็ยังได้นะ

แทบจะทุกตำราบอกเหมือนกันหมดว่าอาหารเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุด...

แต่ในความเป็นจริงของชีวิตคนสมัยนี้ อาหารเช้ากับอาหารกลางวันถูกบวกรวมกันกลายเป็น “brunch” ไปซะงั้น เพราะเนื่องด้วยเงื่อนเวลาการตื่นกับการเดินทางไปทำงานและเวลาเริ่มทำงานมันไม่ได้ไปด้วยกัน  คนสมัยนี้คงมีน้อยคนที่จะมีโอกาสได้ทานอาหารเช้าแบบเต็มรูปแบบ

ยกเว้น...เวลาไปสัมมนาต่างจังหวัดกับที่ทำงานแบบที่ติดกันหลายๆวัน ฮ่า ถึงจะมีโอกาสได้กินอาหารเช้าแบบเต็มรูปแบบ แถมมีขนมช่วงพักเบรคสัมมนาอีกตั้งสองมื้อ เคยเป็นช่วงเวลาที่แสนสุขสำหรับผู้เขียนจริงๆค่ะ

 


วันนี้จะมาเล่าเรื่องการทำเค้กกล้วยหอมแบบจริงจังซะทีค่ะ  เพราะเป็นขนมที่ทำบ่อย ทานเป็นอาหารเช้ามื้อเล็กๆ หรือจะทานเป็นของหวานยามสายหรือยามบ่ายก็ได้.   ใช้เวลาทำไม่นาน อุปกรณ์น้อย วัตถุดิบไม่กี่อย่าง. ทำให้การเริ่มต้นทำขนมและการจบ project เป็นเรื่องสวยๆ. ไม่เลอะเทอะ. ไม่เละเทะ ทำเสร็จแล้วก็รีบล้างอุปกรณ์เก็บเข้าชั้นแบบรวดเร็ว. (เพราะใช้อุปกรณ์ไม่กี่อย่าง. ก็เลยล้างน้อยค่ะ) อันนี้ชอบมาก. 

เคยเล่าไปครั้งหนึ่งแล้วเรื่องว่าทำเค้กกล้วยหอมแบบใส่พิมพ์ Loaf Pan แต่คราวนี้ลองเปลี่ยนมาใส่พิมพ์กลมบ้างนะคะ. เป็นพิมพ์กลมแบบพิมพ์ฟอยด์มีฝาปิด ใครอยากลองทำตาม ก้อไปตามหาพิมพ์ฟอยด์เบอร์.     ได้เลยค่ะ เมื่อใส่เนื้อ batter ลงไปประมาณ   กรัม จะได้ปริมาณที่พอดีๆ. อย่าลืมว่าห้ามใส่จนเต็มเด็ดขาดนะคะ. ไม่งั้นเวลาอบมันจะพองล้นออกมา.  

วิธีแก้ถ้าเกิดว่ายังมีเนื้อเค้กที่เราผสมเสร็จแล้ว หรือที่เรียกว่า batter นั่นแหละค่ะ. ถ้ายังเหลืออยู่อีกก้อให้ใส่พิมพ์ถ้วยกระดาษไปก่อนนะคะ

บอกไว้ก่อนเช่นเคยว่า blog ไม่ได้แจกสูตร. ขอเป็นการแบ่งปันประสบการณ์การทำขนมก้อแล้วกันนะคะ.  เพราะเชื่อว่าสูตรเค้กกล้วยหอมหาได้ง่ายมากๆ

เวลาผู้เขียนคิดจะทำเค้กกล้วยหอมมักจะเริ่มจากมีกล้วยหอมงอมๆอยู่ในตู้เย็นซัก 1-2 ผลก้อพอค่ะ จากนั้นก็จะเตรียมอุปกรณ์ได้แก่  

ตาชั่ง digital
อ่างผสมขนาดใหญ่ขอเป็นทำจาก stainless 
แก้วตวงของเหลว 
ตะกร้อมืออันใหญ่ (อันใหญ่จะดีค่ะ. ออกแรงกวนส่วนผสมแล้วทนแรงต้านได้ดี)
ช้อนช้า 1 อัน
อ่างใส่แป้งพร้อมวางตะแกรงร่อนแป้งไว้ข้างบนได้เสร็จสรรพ


( to be continued...ยังมีต่อค่ะ ขอเป็นทะยอย update นะจ๊า)





มกราคม 01, 2565

ขอมอบสิ่งดีๆให้กับคนอ่านเพื่อเริ่มต้นปี 2565 อย่างมั่นใจ

😄 เห็นเค้าชอบแจกอะไรฟรีๆกันในช่วงปีใหม่. วันนี้ขอแจกด้วยคน

แจกแบบไม่มีเงื่อนไข. ไม่ต้องใส่เครดิต. เอาไปใช้กันเลย. เพราะผู้เขียนเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มหาศาลกับชีวิตนะคะ. มันคือแผ่น tracker

สายชอบจดพวก bullet journal ต้องรู้จักแน่. จริงๆแล้วผู้เขียนชอบจด. แต่ไม่ถึงขั้นจดเป็น bullet journal ขนาดนั้น. ที่จริงเคยพยายามอยู่พักนึง แต่รู้สึกจะเหนื่อยเกินไป. จำพวก index ต่างๆไม่ค่อยได้. เลยหยุดไปแล้วววว. เอาแค่ทำ tracker ไว้ติดตาม monitor เรื่องต่างๆที่อยู่ใน focus ก็จะแย่แล้ว.  เพราะว่าทำหลายอย่างมากเลยค่ะ มีแผ่น tracker เป็นปึกเลย

ยิ่งทำอะไรหลายสิ่งอย่าง ยิ่งต้อง monitor ตัวเองให้ดี. เราไม่มีทางจะรู้เลยว่าในเวลาวันหนึ่งๆเราหมดเวลาไปกับอะไร. สิ่งไหนที่ทำเงิน. สิ่งไหนที่ยังไม่ทำเงิน (บางสิ่งบางอย่างทำแล้วไม่เห็นผลในเวลาสั้นๆ)

เราควรจะต้องรับรู้สถานะของสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ค่ะ

แผ่น tracker อันนี้ ผู้เขียนออกแบบและสร้างไฟล์เองด้วย Adobe Indesign ค่ะ ขอบอกว่าช่วงหัดใช้โปรแกรมนี่เป็นช่วงที่โหดร้ายพอดู.  อาศัยศึกษาด้วยตนเองทั้งจากการดูใน youtube และทดลองมั่วไปมั่วมาจนพอจะทำได้ล่ะค่ะ.  

นั่นแหละ ถึงได้บอกกับผู้อ่านไปว่าช่วงสองปีแรกเป็นปีที่เหนื่อยมากกับการเรียนรู้โปรแกรมต่างๆ ในโลกแห่งงาน graphic 

ไม่ได้ไปเข้า course ที่ไหนเพราะมองว่าเป็นโปรแกรมที่ใช้ไม่บ่อยเท่า Photoshop กับ Illustrator ก็เลยต้องฝึกเองประหยัดกว่าค่ะ

เมื่อถึงจุดหนึ่งที่คิดว่าพอจะใช้งานได้ และเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นแล้ว.  ผู้เขียนพบว่าโชคดีจังที่เราใช้  Adobe Indesign พอได้ เพราะประยุกต์ไปทำงานได้อีกหลายประเภทเลยค่ะ. เช่น. ใช้วาง layout เวลาทำ ebook ได้ดีมาก แถม export ไปมาระหว่าง Photoshop กับ Illustrator ได้เป็นอย่างดี. ทำให้สามารถสร้างงานได้หลากหลายมากขึ้นค่ะ. 

อย่างหนึ่งที่ยังไม่ได้พูดถึง คือ ก่อนจะ track หรือ monitor สิ่งที่กำลังทำอยู่.  อย่าลืมวางแผนหรือ ทำ Goal setting กันก่อนนะคะ ยิ่งต้นปีอย่างนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเริ่มต้นตั้งเป้าหมายของตัวเอง.  ว่าในปีนี้เราอยากจะทำอะไรให้สำเร็จบ้าง. 

เช่น  Goal Setting คือ อยากลดน้ำหนัก ก้อตั้งเป้าว่า. ปีนี้จะลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโล. Action plan คือ ออกกำลังกายให้ได้เดือนละ 4 ครั้งเป็นอย่างน้อย(สัปดาห์ละครั้ง). ทุกครั้งที่ไปออกกำลังกาย ก้อให้ทำเครื่องหมายในตาราง tracker เอาไว้ด้วยนะคะ. ทีนี้เราจะได้เห็นภาพชัดขึ้นว่าเราทำตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ได้หรือยัง

แปะแผ่น Tracker ไว้ในที่เห็นชัดเจนเลยค่ะ



บางคนอาจจะบอกว่า มาจดให้เสียเวลาทำไม.  ดูในมือถือก้อได้. เดี๋ยวนี้ใน application พวกนาฬิกาสุขภาพมีให้ดูสถิติต่างๆเยอะแยะ.  

เราควรต้องตอกย้ำเป้าหมายกับตัวเองบ่อยๆด้วยการให้สมองทำงานร่วมกับกล้ามเนื้อมือนี่หละค่ะ. เด็ดสุดแล้ว ซึ่งมันได้ผลดีมากกับผู้เขียนค่ะ  

เอาเป็นว่า. รู้สึกดีที่ได้ทำประโยชน์ให้กับผู้อ่านบ้างนะคะ. 

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม blog ค่ะ



Link download สำหรับคนที่ถนัด Dropbox ค่ะ