ตุลาคม 02, 2563

ก้าวต่อไป และต่อไป(อีกเรื่อยๆ)

พักนี้หายไปไม่ได้มีเวลามาเขียนอะไรเล่าสู่กันฟังเท่าไหร่. อาจมีบางคนที่เคยติดตามอ่านมาก่อนหน้านี้คอยลุ้นไปกับชีวิตของเราว่าป่านนี้เป็นฉันใด...

อาจมีหลายคนเช่นกันที่เกษียณอายุการทำงานเร็วกว่าที่เคยคิดเอาไว้. และเราคงไม่ต่างกันที่อยากมีเพื่อนที่โดนเหมือนกัน5555. จะได้แลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์กันได้บ้างนะ

มีเพื่อนอายุรุ่นเดียวกันบอกว่าอยาก  early retired บ้าง เบื่องานที่ทำอยู่เต็มที

จึงได้แต่บอกว่า ...ถ้าไม่จำเป็น หรือ ถ้าไม่พร้อมจริงๆ ก็ อย่าาาาาาา...ดีกว่า

ฮ่าาาาาา....หัวเราะตามเคย...


อันว่าคำว่า "พร้อม" ของแต่ละคนนั้นมันก้อไม่เหมือนกันอีกนั่นหละ. 

อย่างน้อยที่สุดเราว่า "ห้ามมีหนี้สิน" เป็นอย่างยิ่ง

เพราะไม่ว่าคุณจะรวบรวมเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต หรือเงินที่บริษัทให้มาในตอนสุดท้ายเป็นเท่าไหร่ก็ตาม มันจะต้องเอาชำระหนี้ทั้งหมดก่อนใช่ไหม. ก่อนจะเหลืออิสรภาพที่แท้จริงของคุณ

ยิ่งคุณมีหนี้มาก ก็แปลว่าอิสรภาพที่คุณรอคอยมานานนั้นมันจะเป็นอิสรภาพที่ชวนขนลุกแน่นอน

เอาง่ายๆ. คุณจะได้ไม่ต้องฝันหวาน. นี่คือความเป็นจริงของชีวิตที่อยากแบ่งปัน. คือหลังออกจากงานและชำระหนี้สินหมดสิ้น. 

  •  คุณคิดว่าสมัครงานหางานใหม่คุณจะมีโอกาสได้งานทำหรือไม่
  • ถ้าคุณไม่คิดกลับไปใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างเก่า. คุณจะหารายได้มาใช้จ่ายในแต่ละเดือนอย่างไร. มีอาชีพที่สองรองรับหรือยัง
  • คุณต้องใชัชีวิตต่อไปจนกว่าจะหมดอายุขัยอีกประมาณกี่ปี. คาดว่าจะต้องใช้เงินในการมีชีวิตอยู่จนถึงวันนั้นเป็นจำนวนเงินประมาณเท่าไหร่

ข้อท้ายสุดที่เขียนไปทำเอาเราเครียดนอนไม่หลับอยู่หลายครั้ง...!!!


ทฤษฎีการบริหารเงินเค้าบอกว่าสมัยนี้ต้องหารายได้มากกว่าหนึ่งทางด้วยซ้ำ  แบบว่าต้องมี income streaming เลยทีเดียว. อย่างเราเคยเป็นแต่มนุษย์เงินเดือนตั้งแต่เรียนจบ หมายความว่าเราเป็นพวกมีเรายได้ช่องทางเดียวมาตลอด. พอเราหมดจากสภาพลูกจ้าง. คราวนี้เราก็สูญเสียรายได้ที่มีอยู่ช่องทางเดียวไปเลย

ทุกเดือนเรามีเงินเข้าไม่เคยขาด และเงินมากขึ้นทุกปีจากการขึ้นเงินเดือนประจำปี  มีโบนัสตามผลประกอบการซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่มากเข้าบัญชีปีละหนึ่งถึงสองครั้งด้วยซ้ำไป  โดยที่เรามักจะเห็นพนักงานส่วนใหญ่เตรียม shopping list ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าปีนี้ได้โบนัสแล้วจะซื้ออะไรดี

ผ่านไปปีแล้วปีเล่า....เป็นความเคยชินที่แสนดี.  

อยู่มาวันหนึ่ง, เป็นวันที่เราอายุและประสบการณ์มากมาย. เมื่อออกจากงานแล้วมันกลับยากที่จะกลับเข้าสู่วิถีเดิม.  บางทีมันเป็นเพราะเราเลือกที่จะเดินเส้นทางใหม่. ในแง่จิตใจแล้วก้อเป็นอะไรที่ท้าทายตัวเองมาก

เดี๋ยวนี้คำว่าเก่งก้อไม่พอซะแล้ว.   เราต้องแกร่งด้วย. เราต้องล้มแล้วรีบลุกขึ้นมาให้ไว. อย่านอนนิ่งจมอยู่กับความไม่สำเร็จนั้นนานเกินไป. ยิ่งเจ็บ. ยิ่งมีบาดแผล. แปลว่าเราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น.  คราวหน้าเราจะไม่ล้มท่าเดิม. ฮ่าาาาา

รู้สึกว่า post นี้จะดูซีเรียสไปไหมคะ. 5555. ไม่หรอกเนอะ.  ไหนๆก็เป็นคนเกษียณเร็ว. แถมยังเจอเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรงจากภาวะ covid-19 เงินที่มีก้อไม่งอก. แถมยังหดหายไปอีกต่างหาก.  ได้แต่ยอมรับในโชคชะตา. และพยายามจะขำ.  ก้อไม่รู้จะทำยังไงดี

หุ้นตก เศรษฐกิจไม่ฟื้น. ก้อเป็นเฉพาะที่ประเทศเรานี่แหละ.  ประเทศอื่นเค้าฟื้นๆฟุบๆแต่ก้อยังดีกว่าประเทศเราแฮะ.  แล้วยังไง...สถานการณ์ทางการเมืองก้อไม่นิ่งอีก.  คนเล็กๆอย่างเราได้แต่ทอดถอนใจค่ะ

ระหว่างรอวัคซีน. ก้อต้องระวังการระบาดใหญ่รอบสองไปด้วยนะเนี่ย. โอ้โห amazing กับชีวิตมาก. แต่ถึงอย่างไรจะขอบอกว่าตอนนี้ได้ทำสิ่งที่อยากจะทำเกือบทุกอย่างแล้วค่ะ. มีความสุขมากกว่าเดิม. ถึงแม้จะไม่มีรายได้เลยเน้อ. แบบนี้นี่แหละ ที่เค้าเรียก "ศิลปินไส้แห้ง" ไงคะ. 55555😅


(ภาพประกอบถ่ายรูปเองนะคะ เย้ๆๆๆ)