แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ acrylics แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ acrylics แสดงบทความทั้งหมด

กุมภาพันธ์ 07, 2567

ศิลปกรรมแห่งความน่ากลัว : Art of Horror

 




ขออวดภาพวาดด้วยสีอะคริลิคฝีมือตัวเองกันสักหน่อยนะคะ

ใครอยากสนับสนุนนักวาดวัยเกษียณคนนี้ติดต่อทักมาได้ อิอิ  ได้ไอเดียว่าขายเป็น Art Print ก็น่าจะพอไหวอยู่นะคะ (ตามไปเปย์ได้ใน Shopee ค่ะ เปิดร้านรอไว้ปล่อยของแล้วค่ะ 5555)

ตัวผู้เขียนเองก็สั่งทำเป็นภาพพิมพ์บนผืนผ้าใบไว้ติดข้างฝาห้องแบบหนุกๆ ค่ะ  คือติดแทนรูปภาพสีน้ำอันเก่าที่วาดเอง(อีกเหมือนกัน) ซึ่งติดไว้นานจนชักจะชินตาเกินไปแล้ว  ขอเปลี่ยนอารมณ์หน่อย5555

คือชอบคู่สีในภาพมากค่ะ  ชอบสีเขียวอมฟ้าแบบนี้ พอจับคู่กับโทนชมพูละก็ สวยดี

ทว่าเนื้อหาของภาพออกจะดูไม่โรแมนติก ออกแนวน่ากลัว ผสมหลอนนิดๆ  

มานั่งนึกดูก็สงสัยตัวเองว่ามีรสนิยมจริงๆแล้วชอบงานหลอนๆแบบนี้เหรอ😓

น่าคิดค่ะ...คือว่าชอบดูหนังผี หนัง thriller มากกว่าหนังรัก  หนังสอบสวนก็ดูบ้างนะคะ แต่ไม่มากเท่าไหร่ คือดูแล้วต้องคิดเยอะ  ปวดหัวค่ะ  เอาสมองมาใช้ทำงานดีกว่า

ทุกวันนี้เพิ่งค้นพบว่าการเป็นนักเขียนนี่ใช้ความคิดเป็นอย่างมาก  คือ ต้องคิดทุกอย่างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แถมจินตนาการว่าตัวละครจะพูดอย่างไร และมีอารมณ์แบบไหน

แล้วมาเป็นนักเขียนเอาตอนอายุมากแล้วนี่...เหนื่อยค่ะ  สุขภาพจะไม่ไหวเอาล่ะ 

คือพอใช้สมองเยอะ  ก็ออกอาการปวดหัว และอ่อนเพลียมาก เวลาคิดไม่ออกแต่มันต้องเขียนแล้วอะค่ะ  เพราะตั้งใจว่าจะ upload ตอนใหม่อย่างน้อยสัปดาห์ละสองตอน

บางช่วงยอดอ่านขึ้นสูง มีคนมากดหัวใจให้ ก็รู้สึกฮึดๆๆๆ  จะเขียนให้ได้สามตอนต่อสัปดาห์

ปรากฏว่า...แทบจะป่วย 

ตกลงว่าชีวิตนี้จะเขียนนิยายได้กี่เรื่อง

เดี๋ยวต้องไปพักร่าง พักใจด้วยการกลับไปวาดรูปดีกว่าค่ะ  มันคือการปลดปล่อยตัวเองจากความเป็นทาสของสิ่งทั้งปวง  ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อนักอ่าน5555  และ....การเลี้ยงชีวิต


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ




#Art of Horror  #ศิลปกรรมแห่งความน่ากลัว



กุมภาพันธ์ 08, 2566

ความสุขที่จับต้องได้

 



แล้วๆเล่าๆวันนี้วาดรูปเสร็จไปหนึ่งรูป.  ทันทีที่รู้สึกว่า "จบ". และ "พอแล้ว" แปลว่าเสร็จละค่ะ

ไม่ได้วาดรูปเป็นชิ้นเป็นอันมานาน.  มีโพสต์ก่อนๆที่บ่นให้คุณผู้อ่านฟังว่าอยากกลับไปวาดรูปสีน้ำมัน.  แต่ก้อกลับมาวาดด้วยสี acrylics 

คือ สี acrylics มันแห้งเร็ว. จบงานได้เร็วกว่าเยอะค่ะ

และที่สำคัญ  คือ. กลิ่นไม่มี

สีน้ำมันที่ต้องดมกลิ่นพวกน้ำมัน. พวกทินเนอร์. จึงคิดว่าเอาไว้ก่อนดีกว่า

ไม่รู้แต่ก่อนก็ทนดมอยู่ได้ตั้งหลายปี. ฮ๋าาาาา.  แต่ก่อนวาดสีน้ำมันเป็นงานหลักเลยค่ะ.   อาจเป็นเพราะเข้าใจว่าการวาดสีน้ำมันมันแพร่หลายกว่า.  และตอนนั้นก้อไม่ค่อยรู้จักสี acrylics  เท่าไหร่  

คือไม่เข้าใจว่ามันต้องผสมอะไร.  รู้ว่าใช้น้ำได้.  แต่เคยลองๆแล้ว. พอผสมน้ำ. สีออกมาบางมาก.  หลายอย่างไม่ได้อย่างใจแลยยยย.   เพราะไม่เข้าใจนั่นเอง

ไม่เข้าใจแต่ก้อแอบซื้อสะสมสี acrylics ไว้เป็นลังเลยนะคะ. ไหนจะพวก medium ต่างๆนานา. ขนาดใช้ไม่เป็นก้อซื้อมาซะงั้น

โชคดีสมัยตอนทำงานมีรายได้. จึงเลือกซื้อเลือกใช้ของดีๆ. เข้าใจว่าแพงนิดแต่น่าจะอยู่ทนนาน.  เพราะไม่รู้จะมีเวลาเอามาใช้เมื่อไหร่.   ก็สมพรปากตามนั้นเลยค่ะ....ซื้อมาเก็บไม่ต่ำกว่าสิบปี หรือใกล้ๆนั้น

แม้ว่าจะเก็บเอาไว้เฉยๆได้นานขนาดนั้นกลับพบว่าสีเกรดอาร์ตติสนั้นทนถึกมากมายค่ะ

ยังบีบออกจากหลอดได้อยู่.  บางหลอดอาจจะมีการแยกเนื้อ-แยกน้ำบ้าง. แต่ยังพอจะเอามาระบายได้

เมื่อวานระบาย background เอาไว้แล้ว.  ระบายไปเรื่อยเปื่อย. เรียก free flow painting คือนึกจะระบายอะไรก้อไม่ต้องคิดเยอะ.  ไม่ต้องคิดว่าสวย.  อยากทำอะไรก้อทำ

วันนี้เอามาวาดต่อ. คือเสร็จเร็วเพราะเป็นงานชิ้นไม่ใหญ่ค่ะ. วาดเพื่อ warm up ประมาณนั้น

คือเวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว.  ผ่านไปอย่างรวดเร็ว.  ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง....อิ่มเอมใจ

ทำงานพวก digital art ต้องใช้สายตามองจอคอมพิวเตอร์เกือบทั้งวัน.  พักนี้แสบตาและปวดตาไปหมดเลยค่ะ  ถ้าไม่ถนอมสายตาและมือ.   หรือกล้ามเนื้อหลัง.  เดี๋ยวซักวันร่างเสื่อมไปจนวาดรูปไม่ได้จะทำยังไง

ต้องการจะพักสายตา.  ไม่ต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์ค่ะ

มันก้อเป็นการตอกย้ำตัวเองค่ะ.  ย้ำแล้วย้ำเล่า

ว่าเราอยากอยู่ในโลกของการวาดรูปและศิลปะ

ไม่จำเป็นต้องถามว่าทำไม....เพราะไม่มีคำตอบค่ะ. ชอบก้อคือชอบ

นี่ละค่ะ   ความสุขที่จับต้องได้


...

ธันวาคม 15, 2556

Watercolour Style in Art Journal


Last 4 months I joined a very interesting seminar "Adobe Workshop Stock Photo Thailand". I had many inspiration  about photography and illustration. I'm back to home and try to shoot many photo. The water colour pan image is one of the photos I loved.

I like water-colour painting now I'm try to paint again, but I have not much time to finish any water-colour project. So I paint  my art journal with an acrylics, dry faster than watercolour and transparent like a watercolour. The below page of my journal is my old work in 2010. I painted with acrylic in thin pigment and layer by layer. It's very difficult because the colour from a first layer always lost when I painted next layer.







Finally, I have found that I need to mix glaze medium in to colour or glaze my work after it's dry completely in each layer before painted next layer.

กุมภาพันธ์ 10, 2556

My Art Journal Page : Lady in mood

ช่วงนี้สนุกกับการทำ Mixed Media บน Art Journal เป็นพิเศษ  ซึ่งที่จริงก็ได้ทำมาเรื่อยๆตั้งแต่ปี 2010 คิดว่าจะค่อยๆนำมาอวดบน blog ก็แล้วกันนะคะ

Pageนี้ เพิ่งจะทำเสร็จได้ไม่นาน เทคนิคที่ใช้ก็เป็น Acrylics Paint , สีพาสเทลแบบแท่ง , Stencil Plate และ Collage ปะติด


การใช้สี Acrylics อาศัยดูตาม youtube ว่าใช้กันอย่างไร เหมือนจะง่ายที่ว่าสีประเภทนี้ใช้คล้ายๆสีน้ำ คือใช้น้ำเป็นสื่อผสมได้ สีไม่มีกลิ่นเหม็น แห้งเร็วมาก และหากเลอะเสื้อผ้าก็จะล้างไม่ออกนะจ๊ะ  ที่่ว่าไม่ง่ายก็คือหากคาดหวัง effect แบบ advance ขึ้นมาหน่อย ก็จะต้องมีอุปกรณ์เสริมมากขึ้นตามไปด้วยเหมือนกัน

และอุปกรณ์เสริมที่ว่านี้ออกจะเข้าใจยากสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีพื้นฐานการเรียนศิลปะ  เรากำลังนึกภาพการใชสีอะคริลิกเป็นเหมือนการทำอาหาร มีการผสมของเหลวนี่นั้นโน่นลงไปกับสีในปริมาณที่แตกต่างกันก็จะทำให้งานที่ออกมามีผลแตกต่างกันไปด้วย

อย่างแรกต้องเข้าใจว่าการรองพื้นกับไม่รองมันก็ต่างกันแล้ว

รองพื้นด้วย gesso ก่อนจะทำให้สีไม่จมลงไปในกระดาษ และ gesso มีขายเป็นขวดๆเป็นครีมข้นสีขาว เอามาป้ายๆสักสองสามรอบให้ทั่วกระดาษก่อนลงสี อันนี้ถือเป็น basic เลยค่ะ



พอรองพื้นผิวแล้วคราวนี้ลุยได้เลย...

นอกจากการลงสีแล้ว จะเห็นว่ามีการใช้กระดาษปะติดลงไปบนหน้าเพจด้วย ขอบอกว่าอันนี้ควรใช้กาวที่ไม่เลอะเทอะ  อย่างกาวลาเท๊กซ์  กาวน้ำ ไม่ค่อยแนะนำนะคะ  ขอเป็นพวกกาวสำหรับงานเดคูพาจ (decoupage) จะดีกว่า และดีที่สุดคือ gel medium เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับงานสีอะคริลิกอีกหนึ่งอย่างประโยชน์ใช้สอยมีมากมาย ไว้ค่อยๆเล่าไปคุยไปทาง blog ต่อๆไปแล้วกันค่ะ  วันนี้ชักจะยาววว...แล้ว



เมษายน 16, 2554

How to paint T-Shirt : มาเพ้นท์เสื้อใส่เองกันเถอะ

วันหยุด ยาวๆ ต่อกันหลายวันอย่างนี้คงทำให้พี่น้องชาวเรามีความสุขกันทั่วหน้านะคะ  หลายคนคงมีทริปเล็กทริปใหญ่ออกเที่ยว  ส่วนคนที่ไม่ได้มีแผนการไปไหน อาจมีเวลาออกไปเดินหาแรงบันดาลใจตามห้างสรรพสินค้าหรือที่ไหนๆที่เคยอยากไป  หากไม่ใช่ช่วงหยุดต่อกันยาวๆผู้คนจะเยอะแยะจนบางทีหมดสนุก ถือว่าช่วงหลายวันนี้เป็นนาทีทองแสนสุขทีเดียวค่ะ รถก็ไม่ติด คนก็ไม่มากจนเกินไป  ไหนๆก็พอมีเวลากันแล้ว เรามาลองเพ้นท์เสือยืดใส่เล่นกันเถอะค่ะ  จริงๆแล้วไม่มีอะไรยากเลย เรามาเตรียมอุปกรณ์กันก่อนเลยนะคะ


สีอะคริลิคสำหรับเพ้นท์
 
สำหรับ Brand นี้ได้มาจากห้างตั้งฮั่วเส็งนะคะ
 
            แรก สุดจะเพ้นท์อะไรก็ต้องมีสีก่อนเนอะ เห็นสีตามภาพประกอบแล้วไม่ต้องงง มันก็สี acrylic นั่นแหละ อันตามภาพด้านบนนี่เป็นแบรนด์ที่เค้ามีเฉดสีออกพาสเทล แบบว่าสีตุ่นๆหน่อยนึง ชอบเฉดสีแบบนี้เพราะพอเพ้นท์ออกมาจะไม่ฉูดฉาดจนเกินไป แล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหนนะคะ ถ้าคุณชอบแบบฉูดฉาดก็ตามสบาย ด้านล่างจะเป็นแบบสีหลอดก็มีอันนี้เห็นได้ตาม B2S ส่วนหลอดพลาสติกนี่เกรดดีขึ้นไปอีก ราคาก็แพงขึ้นมาค่ะ แต่สีจะสดใสกว่าและมีเฉดให้เลือกเยอะ สีทองก็มี สีมุก สีเงิน  

  
            เสริมเรื่องสีอีกนิด เพราะว่าเรื่องนี้สำคัญ เดี๋ยวนี้มีสีเขียนผ้าที่เป็นแท่งๆเหมือนสีเทียนวาดรูปสมัยเด็กๆด้วย คุณๆอาจจะเอามาระบายบนเสื้อได้เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าพอวาดเสร็จจะต้องเอาเตารีดรีดทับเพื่อเป็นการ fix ให้สีติดกับผ้าด้วย ทีนี้อย่าลืมว่าสี pastel มีส่วนประกอบของขี้ผึ้ง หากรีดด้วยเตารีดไฟแรงเกินไปอาจทำให้สีเยิ้มได้  แต่ถ้าเป็นสี acrylic ละก็หายห่วงค่ะ วิธีการใช้เหมือนสีน้ำ แต่ต้องระวังมากๆตรงที่หากหกเลอะเสื้อผ้าละก็ล้างไม่ออกนะจ๊ะ  แล้วก็สี acrylic พวกนี้อายุการใช้งานจำกัดกว่าสีน้ำมันหรือสีน้ำ หมายความว่าเก็บสีไว้ได้ไม่นาน อาจสองถึงสามปีเท่านั้น สีก็เสียได้ ลักษณะมันจะแยกตัวสีออกจากน้ำยาค่ะ บางทีก็แห้งแข็งใช้ไม่ได้ไปเลย
 
             เมื่อเข้าใจธรรมชาติของสีกันแล้วคราวนี้ก็มาต่อกันเรื่องพู่กันที่ใช้ระบาย สีค่ะ  ทางที่ดีอย่าเอาพู่กันแบบราคาแพง ๆมาใช้จะดีกว่า โดยเฉพาะพู่กันขนสัตว์แท้สำหรับงานสีน้ำ  สี acrylic ทำละลายด้วยน้ำเหมือนสีน้ำได้ด้วยก็จริง แต่ว่าตัว pigment ของมันล้างด้วยน้ำออกไม่หมดหรอกค่ะ  พู่กันดีๆแพงๆจะเสียหมด เอาพู่กันที่บานๆแข็งๆมาใช้ หรือว่าพู่กันเกรดนักเรียนมาใช้ก็ไม่ได้เสียหายนะคะ

                
 มาถึงเรื่องการเลือกเสื้อยืดที่เราจะนำมาเพ้นท์  จะว่าสำคัญก็สำคัญอยู่...ส่วนใหญ่เราคงจะเลือกสีพื้นที่เป็นสีขาวกัน จริงๆ แล้วเป็นสีไหนก็ไม่ผิดนะคะ ส่วนตัวชอบสีแบบสีขาวครีม หรือสีผ้าดิบมากกว่า สียืดสีดำ สีเข้มก็นำมาเพ้นท์ได้ แต่คงจะต้องพิจารณาเลือกลายที่จะนำมาเพ้นท์กันซักหน่อย  ถ้าเสือยืดสีเข้มควรเลือกลวดลายที่สีสันสว่างสดใสหน่อย ยิ่งถ้าเป็นสีมุก สีทองปนๆคงจะเด่นเตะตาน่าดูค่ะ
                เรื่องเนื้อผ้าแนะนำว่าหากเป็นเนื้อหนาหน่อยจะเพ้นท์ง่ายกว่า เพราะต้านทานแรงกด แรงถูของพู่กันได้ดี เวลาเราระบายสีลงไปเนื้อผ้าจะได้ไม่ไถล เคยนำเสื้อยืดที่เนื้อบางมาเพ้นท์แล้วเจอปัญหาว่าคุมขอบลายได้ยาก หนึ่งเพราะเนื้อบางน้ำซึมผ่านได้ดี สีจะเลอะเทอะเอาง่ายๆกว่าผ้าเนื้อหนา  อย่าลืมว่าเราต้องละลายสีรวมกับน้ำเหมือนสีน้ำ ปัญหาสีแฉะเกินไปจนซึมออกมานอกกระดาษก็ไม่ต่างไปจากปัญหาเวลาเราระบายสีน้ำ
                เอา ละต่อไปเราก็เอาเสื้อยืดมาขึงกัน  ง่ายมากก็เอากระดานไม้สอดเข้าไปใต้เสื้อแล้วยึดด้วยตัวหนีบให้เรียบร้อยนะคะ เท่านี้ก็เรียบร้อย  เพ้นท์กันให้เต็มที่  จะเพ้นท์ตามปกติเหมือนเพ้นท์ลงบน canvas หรือทำ เทคนิค stencil ก็ได้ค่ะ


            ขออธิบายเรื่อง เทคนิค stencil ให้ฟังอีกนิด ว่ามันคืออะไร  ที่แท้ก็คือการที่เราเอาอะไรมากั้นสีนั่นเอง  ตรงไหนที่ไม่ให้โดนสีก็เอาเทปกาวมาปิดทับ(เอานะแบบง่ายๆ) เวลาเราเอาพู่กันถูสีลงไปขอบก็จะสะอาดไม่เลอะ  หากให้ advance หน่อยก็เอาแผ่นใสมาเจาะๆๆฉลุลายไว้  แล้วค่อยๆทาสีลงไปทีละสีในช่องที่เราฉลุ ก็จะดู pro มากขึ้น(คล้ายๆทำซิลค์สกรีนเหมือนกันแฮะ)

            คราวนี้หวังว่าเพื่อนๆจะได้เสื้อยืดลวดลายแบบ Do it Yourself ไว้ใส่แก้เบื่ออีกหนึ่งตัว รับรองว่าเปรี้ยวจี๊ดไม่มีใครเหมือนค่ะ รูปประกอบด้านล่างนี่ก็เทคนิค stencil เลย กว่าจะได้ก็เหนื่อยเพราะต้องเจาะแผ่นใสหลายแผ่นค่ะ  เอามาโชว์เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆไป creat ต่อกันเองนะคะ







           คราวหน้าหากมีเวลา(ซึ่งไม่ค่อยจะมีซักที)อยากจะเขียนต่ออีกนะคะ โปรดติดตามตอนต่อไป...บายค่ะ :)